โบรกฯมองปี 51 กลุ่มหลักทรัพย์โอกาสรุ่ง คาดภาวะตลาดคึกคักดันวอลุ่มเทรด

          โบรกเกอร์มองหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์ ปี 51 สดใส จากคาดการณ์ภาวะตลาดหุ้นกลับมาคึกคักหลังการเมืองชัดเจน และปริมาณการซื้ขายของตลาดโดยรวมจะปรับตัวขึ้นมาที่เฉลี่ย 18,000 -21,000 ล้านบาท/วัน เพิ่มจากปี 50 ที่อยู่ในระดับ 17,097 ล้านบาท แต่การแข่งขันยังสูงส่งผลกำไรอาจทรงตัว แนะหุ้นเด่น BLS, KEST,PHATRA      
          นายณาศิส ประเสริฐสกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ปีนี้(51)มองว่าวอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมจะมีการปรับตัวดีขึ้น โดยคาดว่าปีนี้วอลุ่มเทรดเฉลี่ยต่อวันจะอยู่ที่ 21,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน(50)ที่มีวอลุ่มเทรดเฉลี่ยอยู่ 17,097 ล้านบาท/วัน 
          "เชื่อว่าการลงทุนจะกลับมามากขึ้น เนื่องจากไทยได้มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว จึงน่าจะทำให้ความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนกลับมา" นายณาศิส กล่าว  
          อย่างไรก็ดี มองว่าผลกำไรของบริษัทหลักทรัพย์น่าจะทรงตัว เนื่องจากการแข่งขันสูงขึ้น และนักลงทุนได้หันไปเทรดหุ้นผ่านอินเตอร์เน็ตเทรดดิ้งกันมากขึ้น ทำให้ค่าคอมมิชชั่นของโบรกฯน่าจะน้อยลง 
          ทั้งนี้ ยังคงแนะนำหุ้นบล.บัวหลวง(BLS)และหุ้นบล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)หรือ KEST เนื่องจากหุ้นทั้งสองตัวจะยังให้ผลกำไรสุทธิที่ดี และมาร์เก็ตแชร์ก็คาดว่าจะมีการเติบโตดีต่อเนื่อง โดยหุ้น BLS คาดว่าปีนี้จะมีมาร์เก็ตแชร์ประมาณ 4.1% ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 29.75 บาท/หุ้น ส่วนหุ้น KEST คาดว่าจะมีมาร์เก็ตแชร์ประมาณ 9% ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 28.75 บาท
          น.ส.ดาวดี ธีรอภิศักดิ์กุล ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)กล่าวว่า ปีนี้มองว่าหุ้นกลุ่มธุรกิจหลักทรัพย์น่าจะมีการปรับตัวดีขึ้น ภายหลังจากที่ประเทศไทยมีรัฐบาลแล้ว ทำให้เชื่อว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะกลับมามากขึ้น ทำให้มีการลงทุนสูงขึ้น โดยปีนี้ได้ประมาณการมูลค่าการซื้อขายโดยรวมเฉลี่ยอยู่ที่ 18,000 ล้านบาท/วัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว
          ภาพรวมในกลุ่มหลักทรัพย์ ยังคงชอบหุ้น BLS แม้ว่าราคาปัจจุบันจะวิ่งขึ้นมาชนราคาเป้าหมายที่ให้ไว้ที่ 26 บาท/หุ้นแล้วก็ตาม เนื่องจาก BLS เป็นหุ้นที่มีการเติบโตดี รองลงมาเป็นหุ้นที่ยังมี upside ให้เล่นได้คือหุ้นบล.ภัทร(PHATRA) ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 39.5 บาท/หุ้น และหุ้น บล.เอเชีย พลัส(ASP)ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 4.2 บาท/หุ้น ซึ่งนักลงทุนสามารถทยอยซื้อสะสมได้เมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวลง
          ราคาหุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์ ตั้งแต่ต้นปี จนถึงสิ้นปี 2550 มีความเปลี่ยนแปลง ดังนี้ 
          หุ้น          3 ม.ค.50(บาท/หุ้น)  28 ธ.ค.50(บาท/หุ้น) เปลี่ยนแปลง(%)         
          BLS           10.30            26.50              157.28 
          KGI            1.59             2.78               74.84
          BSEC           2.58             3.96               53.49 
          KEST          16.70            25.50               52.69
          TNITY          4.72             7.10               50.42
          SYRUS          2.58             3.82               48.06
          ASP            2.64             3.76               42.42
          CNS           28.75            35.75               24.35
          PHATRA        28.25            34.25               21.24 
          UOBKH          4.38             5.10               16.44
          SSEC           1.25             1.39               11.20
          US             6.95(5 ม.ค.50)   5.65              -18.71(ไม่มีเทรด 3-4 ม.ค.50)
          GBX            1.75             1.50              -14.29
          FNS            9.40             8.80               -6.38
          ZMICO          3.42             3.38               -1.17
          ASL            6.80             0.91  ระหว่างปีเปลี่ยนราคาพาร์จาก 10 บาท เป็น 1 บาท/หุ้น