ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,721.82 จุด เพิ่มขึ้น 24.90 จุด (+1.47%) มูลค่าการซื้อขาย 46,879.48 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,721.82 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,707.63 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 1,056 หลักทรัพย์ ลดลง 411 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 388 หลักทรัพย์
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์ได้แรงและเร็ว แต่วอลุ่มเทรดไม่มากนัก จึงมองอาจเป็นแค่รีบาวด์ในช่วงสั้น หลังจากที่ดัชนีฯได้ปรับตัวลงไป 60-70 จุด ในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งได้ซึมซับเรื่องงบประมาณขาดดุลของอิตาลีจำนวนมากที่ทำให้สหภาพยุโรป(EU) ไม่พอใจไปแล้ว และยังซึมซับเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ไปมากแล้วด้วย
ทั้งนี้ ตลาดฯยังได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ของสหรัฐฯที่ชะลอ และเงินดอลลาร์สหรัฐฯเริ่มอ่อนค่า ทำให้ Fund Flow ชะลอการไหลออก และแม้ว่านักลงทุนต่างชาติจะขายหนักเมื่อวานนี้กว่า 4,000 ล้านบาท แต่ก็ได้ทำ Long ในตลาด TFEX ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี
สำหรับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้แกว่งแคบส่วนใหญ่บวก/ลบไม่ถึง 1% ขณะที่ตลาดบ้านเราแข็งแกร่งมากในวันนี้ ดูดีกว่าตลาดอื่นในภูมิภาค พร้อมให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯในวันพรุ่งนี้ และการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/61 ซึ่งจะเริ่มที่กลุ่มแบงก์น่าจะทยอยประกาศออกมาในช่วงปลายสัปดาห์นี้
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (11 ต.ค.) นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ แต่ก็ยังมีลุ้นขึ้นได้ในช่วงสั้น ๆ พร้อมให้แนวรับ 1,700 จุด ส่วนแนวต้าน 1,725-1,730 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,517.99 ล้านบาท ปิดที่ 54.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,793.20 ล้านบาท ปิดที่ 152.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,540.32 ล้านบาท ปิดที่ 79.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,475.57 ล้านบาท ปิดที่ 69.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,420.31 ล้านบาท ปิดที่ 213.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท