นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทนำเสนอกองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินโนเวชั่น ฟันด์ (UNI) กระจายการลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่มีการผลักดันให้เกิดนวัตกรรมใหม่ หรือได้รับประโยชน์จากนวัตกรรม ซึ่งส่งผลถึงกำไรและผลประกอบการของธุรกิจให้มีโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน กองทุนดังกล่าวเปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 16-26 ตุลาคม 2561 ผ่านเครือข่ายของธนาคารยูโอบี
กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินโนเวชั่น ฟันด์ (UNI) จะเน้นลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับการคิดค้นนวัตกรรม หรือได้รับประโยชน์จากนวัตกรรม และมีการประเมินความน่าสนใจของหุ้นด้วยการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานในเชิงลึกควบคู่กับการพิจารณา 4 ปัจจัยในการดำเนินธุรกิจ คือ Trend, Innovation, Barrier to Entry และ Risks นอกจากนี้กองทุนสามารถปรับน้ำหนักการลงทุนตามภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปได้ เพื่อมุ่งหวังโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
ทั้งนี้ กลยุทธ์การลงทุน Global Innovation คือ การกระจายการลงทุนไปยังหุ้นที่เป็นผู้ผลักดันให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ เป็นผู้ได้รับอานิสงค์จากการเปลี่ยนแปลงของกระแสแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก (Trend) ดังนั้น จึงไม่ได้จำกัดเพียงแค่หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรม IT เพียงอย่างเดียว แต่ครอบคลุมในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นด้านการแพทย์ การสื่อสาร การคมนาคมขนส่ง การผลิตพลังงาน การเงิน และการค้าปลีก บลจ.ยูโอบี เชื่อว่า การลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีการคิดค้นนวัตกรรม รวมถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจเพื่อตอบรับต่อการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินชีวิตและความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจมีโอกาสเติบโตอย่างก้าวกระโดด และผลักดันให้เกิดการเติบโตของกำไรและราคาหุ้นของบริษัทให้มีความยั่งยืนในที่สุด
กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินโนเวชั่น ฟันด์ (UNI) ระดับความเสี่ยง 6 กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพในการคิดค้นนวัตกรรมทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อรองรับแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงของโลก โดยมอบหมายให้ UOB Asset Management (Singapore) Limited เป็นผู้รับดำเนินการการลงทุนในต่างประเทศของกองทุน โดยทาง UOB Asset Management (Singapore) Limited จะมอบหมายให้ Wellington Management Company ซึ่งมีประสบการณ์การลงทุนด้วยกลยุทธ์ Global Innovation เป็นผู้รับดำเนินการช่วงการลงทุนต่อในบางส่วนหรือทั้งหมด (Sub-Investment Manager)
"ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจโลกมีแรงขับเคลื่อนจากธุรกิจใหม่ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ธุรกิจทั่วโลกต่างมีความพยายามในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจเพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายและเพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้การเติบโตของเศรษฐกิจจะมาจากการสร้างประสิทธิภาพในการผลิต (Productivity) มากกว่าการเน้นการใช้แรงงานในการผลิตดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา บริษัทที่สามารถสร้างหรือใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมจนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในส่วนแบ่งตลาดหรือยอดขายรวมถึงผลกำไรได้อย่างยั่งยืน ดังนั้นการลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าวเสมือนการลงทุนในกระแสที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต"