แหล่งข่าวจากบมจ.ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงบรวมในไตรมาส 3/61 อาจถูกกระทบจากการบันทึกค่าใช้จ่ายภาษีจากกำไรการโอนทรัพย์สินธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกให้กับบมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (PTTOR) เมื่อต้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมา แม้จะรับรู้กำไรพิเศษจากการโอนทรัพย์สินดังกล่าวด้วย แต่จะไม่ถูกนำมาบันทึกในงบการเงินสำหรับงบรวม เพราะถือว่าเป็นการทำรายการระหว่างกัน ในกลุ่ม แต่ในส่วนงบเดี่ยวจะบันทึกทั้งในส่วนของกำไรจากการโอนทรัพย์สินและค่าใช้จ่ายภาษีจากกำไรดังกล่าวด้วย
"ครั้งนี้เราจะเห็นว่างบเดี่ยวของ PTT จะโป่งกว่างบรวมเพราะจะมีการบันทึกทั้งในส่วนของกำไรจากการโอนทรัพย์สินให้กับ PTTOR และภาษีจากกำไรดังกล่าว แต่ในส่วนของงบรวมจะไม่มีการบันทึกกำไรการโอนทรัพย์สิน เพราะถือว่าเป็นการทำรายการระหว่างกันในกลุ่ม แต่ยังมีภาระภาษีเพราะเป็นการทำรายการระหว่างปตท.และสรรพากร"แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า สำหรับค่าใช้จ่ายภาษีดังกล่าวจะเป็นการตั้งภาษีค้างจ่ายในทางบัญชีไว้ก่อนและจะจ่ายภาษีจริงในช่วงเดือน พ.ค.62 ซึ่งเป็นรอบการจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลธรรมดา
ด้าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ถึงประเด็นการบันทึกภาษีจากกำไรการโอนทรัพย์สินให้ PTTOR ว่า กำไรจากการขายสินทรัพย์ที่เกิดจากส่วนต่างมูลค่าตามบัญชีกับมูลค่ายุติธรรมจะบันทึกในงบเฉพาะของ PTT เท่านั้น ไม่มีการบันทึกกำไรจากการขายในงบการเงินรวมของ PTT เนื่องจากกำไรที่เกิดขึ้นเป็นรายการระหว่างกันภายในกลุ่ม โดยกำไรที่เกิดขึ้นต้องเสียภาษีนิติบุคคล 20% ซึ่งจะบันทึกอยู่ในงบการเงินรวมของ PTT ซึ่งคาดว่าจะอยู่ระดับ 1.0-1.4 หมื่นล้านบาท หรือ 0.36-0.50 บาท/หุ้น แต่ภาษีจะถูกหักล้างด้วยภาษีเงินได้รอตัดบัญชีบางส่วน (deferred tax asset) ในงบของ PTTOR ซึ่งจะถูกทยอยตัดชำระในแต่ละปี ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาส 3/61 ของ PTT ถูกกดดันจากรายการภาษีพิเศษนี้ เกิด Sentiment เชิงลบ แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อประมาณการกำไรปกติ
โดยแนวโน้มกำไรธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และน้ำมันของ PTT ในครึ่งหลังของปีนี้ จะถูกกดดันจากต้นทุนก๊าซฯที่มีแนวโน้มสูงขึ้น กดดันให้มาร์จิ้นลดลงจากครึ่งปีแรก และผลของนโยบายพลังงานจากภาครัฐที่ต้องการลดค่าครองชีพประชาชนจากผลกระทบราคาน้ำมันแพงผ่านค่าการตลาด และการควบคุมราคาก๊าซฯ แต่คาดว่ากำไรของ PTT จะทรงตัวได้ในระดับสูง จากผลประกอบการของบริษัทลูกโดยเฉพาะ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) และบมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง ทำให้ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 61 ที่ 1.4 แสนล้านบาท ลดลง 3% จากปีก่อน โดยกำไรในครึ่งแรกของปีนี้ คิดเป็น 53% ของประมาณการทั้งปี