บมจ.บีอีซี เวิลด์(BEC) ดึงคนข่าวหลากช่องเสริมทัพปรับ"ครอบครัวข่าว"ครั้งใหญ่เต็มรูปแบบรับศักราชใหม่ภายในเดือนนี้ จับแม่เหล็กดัง"คุณปลื้ม"ทำรายการคู่"บัญชา ชุมชัยเวทย์"ช่วงเย็นสุดสัปดาห์ พร้อมเล็งค่าโฆษณาช่วงรายการข่าว โดยเริ่มจาก"เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์" หลังจากขึ้นค่าโฆษณาละครไพร์มไทม์ตั้งแต่ต้นเดือนม.ค.51 ไปแล้ว 7% ทั้งหมดเพื่อไปสู่เป้าหมายเติบโต 2 digit ต่อเนื่องในปี 51
นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขาย BEC เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ผู้ชมจะเริ่มได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของรายการข่าวช่อง 3 ตั้งแต่เริ่มต้นศักราชใหม่
"หน้าตาของผังรายการข่าวใหม่และผู้ประกาศข่าวใหม่ได้จะเริ่มตั้งแต่วันปีใหม่เลย และจะทยอยปรับเต็มรูปแบบภายในเดือน ม.ค.นี้"นายสุรินทร์ กล่าว
ปัจจุบันมีผู้ประกาศข่าวจาก TITV เข้ามาร่วมทีมข่าวช่อง 3 อีก 3-4 ราย ซึ่งจะมาช่วยให้รายการครอบครัวข่าวแข็งแรงมากขึ้น โดยผู้ประกาศที่ย้ายมา นำทีมโดยสายสวรรค์ ขยันยิ่ง, ธีระ ธัญญอนันต์ผล จะมารับหน้าที่ดำเนินรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ แทนวิศาล ดิลกวณิช ที่จะเปลี่ยนหน้าที่มาทำรายการวิเคราะห์ข่าวเชิงลึกตามถนัด
นอกจากนี้ ยังได้บัญชา ชุมชัยเวทย์ จากมันนี่ชาแนล มาจัดรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ในวันเสาร์-อาทิตย์ ร่วมกับ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือ คุณปลื้ม ในส่วนของข่าวกีฬายังได้ กฤษฎิน สุวรรณบุปผา มาทำหน้าที่พิธีกรรายการของฝากนักกอล์ฟด้วย
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการปรับเปลี่ยนดังกล่าว สัดส่วนรายการข่าวและรายการบันเทิงยังคงอยู่ที่ 50 : 50
นายสุรินทร์ กล่าวว่า ในอนาคตอาจจะมีการปรับขึ้นค่าโฆษณารายการข่าว อย่างเช่น เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ปรับขึ้นจากปัจจุบันอัตราค่าโฆษณาอยู่ที่ 230,000 บาท/นาที หลังจากที่ได้ปรับขึ้นค่าโฆษณาในช่วงละครหลังข่าวประมาณ 7% จาก 420,000 บาท/นาที เป็น 450,000 บาท/นาที
ปัจจุบันรายได้ค่าโฆษณาคิดเป็น 80% ของรายได้รวมของ BEC
*คาดแนวโน้มภาพรวมดีขึ้น ขอโต 2 หลักจากปีก่อน
นายสุรินทร์ มั่นใจว่า ปี 51 ผลประกอบการโดยรวมจะดีกว่าปี 50 เป็นตัวเลข 2 หลัก โดยบรรยากาศต่างๆจะสดใสกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะภายหลังการมีรัฐบาลใหม่ ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลก็ตาม และแม้ประเทศไทยจะมีเรื่องสะเทือนใจตั้งแต่เปิดศักราชใหม่ แต่ก็ยังเชื่อว่าสถานการณ์โดยรวมปีนี้สดใสกว่าปี 50 แน่นอน
"ปีนี้ช่อง 3 เราจะเหนื่อยกว่าปีที่แล้ว เพราะปีที่แล้วเราทำไว้ดีมาก ถ้าเราจะทำให้ดีกว่าปีที่แล้ว เราต้องเหนื่อยขึ้นอีก ซึ่งถ้าไม่มีอะไรมากระทบปีนี้น่าจะดีกว่าปีที่แล้วเป็นตัวเลข 2 หลัก"นายสุรินทร์ กล่าว
นายสุรินทร์ คาดว่า ปีนี้บรรดาเจ้าของสินค้าน่าจะใช้เม็ดเงินซื้อโฆษณามากขึ้นกว่าปีที่แล้ว โดยสินค้าที่คาดว่าจะมียอดการใช้โฆษณาสูงสุดยังคงเป็นกลุ่นสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ยูนิลิเวอร์, P&G, โทรศัพท์มือถือ-ระบบสื่อสาร ซึ่งปีนี้น่าจะมีการแข่งขันสูงขึ้น และค่ายรถยนต์ ซึ่งค่อนข้างใช้เงินโฆษณาสูงอยู่แล้ว
"ปีนี้เจ้าของสินค้าน่าจะใช้เงินในการซื้อโฆษณามากขึ้น เพราะการเมืองชัดเจนขึ้น ที่เคยไม่กล้าลงทุนขยายไลน์สินค้า ไม่กล้าเปิดตัวสินค้าใหม่ ก็จะกล้ามากขึ้นในปีนี้ ถ้าการแข่งขันระหว่างสินค้าด้วยกันเองมากขึ้น ผมคิดว่าน่าจมีเม็ดเงินในตลาดมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว อย่างแย่ที่สุดน่าจะได้เห็นประมาณ 5-6%"นายสุรินทร์ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--