ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,698.16 จุด เพิ่มขึ้น 2.00 จุด (+0.12%) มูลค่าการซื้อขาย 20,121.36 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,701.57 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,689.83 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ผันผวนในกรอบ อิงในทางลงมากกว่า ซึ่งมองเป็นการชดเชยช่วงที่ตลาดบ้านเราปิดทำการเมื่อวานนี้และตลาดอื่นได้ติดลบกัน ขณะที่เช้านี้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยปัจจัยกดดันยังมาจากปัจจัยนอกประเทศเป็นหลัก ไม่ว่าจะเรื่องค่าเงินใน Emerging Market อ่อนค่า รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ผันผวนอันเป็นผลจากกรณีซาอุดิอาระเบียและสหรัฐฯมีความขัดแย้งกันกรณีผู้สื่อข่าวชาวซาอุดิอาระเบีย ซึ่งได้หายตัวในสถานกงสุลซาอุดิอาระเบียประจำอิสตัลบูลในช่วงเกือบ 2 สัปดาห์ก่อน
ทั้งนี้ ปัจจัยที่มีผลต่อเศรษฐกิจโลก และทิศทางค่าเงินใน Emerging Market มองว่ามีผลเกี่ยวกับบ้านเราโดยตรงด้วย อย่างไรก็ดี มองว่าแรงซื้อจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และนักลงทุนสถาบันยังช่วยหนุนตลาดฯอยู่ รวมไปถึงการเล่นเก็งกำไรตามผลประกอบการงวดไตรมาส 3/61 ของกลุ่มแบงก์ด้วย
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังซบเซาอยู่ โดยหากดัชนีฯยังขึ้นเหนือ 1,700 จุด ไปไม่ได้ก็มีโอกาสที่จะย่อตัวลง โดยให้แนวรับ 1,690-1,680 จุด ส่วนแนวต้าน 1,700-1,705 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,067.43 ล้านบาท ปิดที่ 51.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
MTC มูลค่าการซื้อขาย 983.30 ล้านบาท ปิดที่ 51.75 บาท ลดลง 1.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 911.87 ล้านบาท ปิดที่ 66.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 801.65 ล้านบาท ปิดที่ 208.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 566.45 ล้านบาท ปิดที่ 77.50 บาท ลดลง 0.25 บาท