นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า ฝ่ายจัดการได้ขอความเห็นชอบของคณะกรรมการในการปรับปรุงแผนการจัดหาเครื่องบิน (Fleet Management) และฝ่ายจัดการนำความเห็นของกรรมการนำมาพิจารณาในการทบทวนแผนจัดซื้อเครื่องบินซึ่งบริษัทมีที่ปรึกษาโครงการมาร่วมพิจารณาด้วย ทั้งนี้แผนการจัดหาเครื่องบินเดิมมีทั้งจำนวน 23 ลำ มูลค่าราว 1 แสนล้านบาท ซึ่งขณะนี้ยังไม่ระบุว่าจะยังคงเดิมหรือไม่
ทั้งนี้ ฝ่ายจัดการจะนำเสนอแผนการจัดหาเครื่องบินหลังปรับปรุงใหม่ต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่ออนุมัติ ก่อนที่จะส่งให้คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในช่วงกลางเดือน พ.ย.นี้ หลังจากที่การบินไทยได้ขอขยายเวลาทบทวนแผนการจัดหาเครื่องบินเป็น 45 วัน จากเดิมที่ สศช.ให้เวลา 30 วัน
"ฝ่ายจัดการจะกลับไปรวบรวมข้อเสนอทั้งหมดเพื่อจัดทำแผนกลับมาเสนอบอร์ดเห็นชอบอีกครั้งในเดือน พ.ย.ก่อนจะส่งข้อมูลทั้งหมดรายงานกลับ สศช.ในช่วงกลางเดือน พ.ย.นี้ และคาดว่าจะนำเรื่องดังกล่าวต่อ ครม.ทันภายในรัฐบาลชุดนี้ตามนโยบาย"นายสุเมธ กล่าว
นายสุเมธ กล่าวว่า แผนการจัดหาเครื่องบินของบริษัท ฝ่ายจัดการจะจัดทำให้สมบูรณ์ โดยแผนจะมีทั้งประมาณการรายได้ แนวโน้มการเติบโต รวมทั้งแหล่งเงินทุน และสถานะทางการเงินของบริษัท
นอกจากนี้จะจัดหาแหล่งเงินในโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) ในท่าอากาศยานอู่ตะเภา โดยโครงการนี้รอให้กองทัพเรือเป็นผู้เสนองบลงทุนศูนย์ซ่อมฯกับคณะรัฐมนตรี ส่วนสำนักงาน EEC จะออก TOR ในปลายเดือน ต.ค.นี้
แหล่งข่าวจาก THAI กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการการบินไทยวันนี้ ได้อนุมัติในหลักการให้ฝ่ายบริหารทำการทบทวนแผนจัดซื้อฝูงบินล็อตใหม่ โดยให้ดำเนินการปรับแผนจากการเปรียบเทียบผลดีผลเสียของแผนเดิมที่ฝ่ายบริหารชุดก่อนกำหนดไว้ และให้เร่งสรุปข้อมูลทั้งหมดเสนอกลับมายังบอร์ดพิจารณา เพื่อรายงานต่อสศช.ภายในเดือน พ.ย.นี้
"บอร์ดเห็นชอบในหลักการให้ปรับปรุงแผนจัดซื้อฝูงบินใหม่ทั้งหมด เพื่อให้สอดคล้องต่อสถานการณ์ตลาด และการใช้งานจริง โดยมอบหมายให้ฝ่ายบริหารเร่งสรุปเส้นทางบิน รูปแบบเครื่องบินที่จะจัดซื้อ เพื่อตอบคำถาม สศช.ภายในเดือนหน้านี้"แหล่งข่าวกล่าว