โบรกฯมองปี 51 หุ้นเด่นพลังงาน PTTEP-TOP-PTTAR น้ำมันพุ่ง-ขยายกำลังผลิต

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 4, 2008 15:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          โบรกเกอร์ ยังคงให้น้ำหนักแนะนำการลงทุนในหุ้นหลักกลุ่มพลังงานในปึ 51 ที่จะรับผลดีจากราคาน้ำมันที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง และต่างก็มีโครงการขยายกำลังผลิต ซึ่งยังมีผลไปถึงธุรกิจที่มึความเกี่ยวเนื่องอย่างปิโตรเคมี แต่ถ่านหินมีจุดด้อยก็คือราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปสูงมากแล้ว โดยเฉพาะในช่วงปีที่ผ่านมา ขณะที่ธุรกิจไฟฟ้า การแข่งขันสูงบีบให้มาร์จิ้นต่ำ การประมูล IPP ผ่านไปแล้วก็หมดความน่าสนใจ 
นายเบญจพล สุทธิ์วณิช เจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า กลุ่มปตท.ยังเป็นตัวหลักที่น่าลงทุนอยู่ ไม่ว่าจะเป็น บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) จากราคาน้ำมันที่ยังทรงตัวระดับสูงเป็นหลักและ PTTEP เองมีวอลุ่มเพิ่มขึ้นจากโครงการอาทิตย์
บมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น (PTTAR) ที่เกิดจากควบรวม ช่วงกลางปีจะมีการขยายกำลังการผลิตทั้งในส่วนของโรงกลั่นและอะโรเมติกส์เดิม รวมทั้ง บมจ.ไทยออยล์ (TOP) ที่กำลังขยายกำลังการผลิตทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลดีทั้งระดับราคาและส่วนต่างราคา ส่วนค่าการกลั่นเป็นแนวโน้มของการอ่อนตัวลงจากปีที่แล้วเล็กน้อย
"ปีนี้ได้วอลุ่มที่เพิ่มขึ้นมาค่อนข้างมากเป็นตัวสนับสนุนผลประกอบการทำให้ PTTEP, PTTAR และ TOP ยังดูดีอยู่"นายเบญจพล กล่าว
ส่วน บมจ.ปตท. (PTT) หลังมหกรรมคืนสินทรัพย์ถ้าคิดค่าผ่านท่อก๊าซอยู่ที่ 5% คืนเท่าที่ PTT แถลงไม่ได้มีอะไรเพิ่มราคาหุ้นจะอยู่ที่ประมาณ 452 บาท ยังมี upside 25-26% เทียบกับราคาปัจจุบันยังลงทุนได้ นอกจากนี้ การที่ PTTAR PTTEP TOP ซึ่งเป็นบริษัทลูกถ้า 3 ตัวนี้ดี PTT ก็ดีด้วย
PTTEP ราคาเหมาะสมที่ 170 บาท TOP ที่ 100 บาท PTTAR ที่ 62 บาท ยังซื้อลงทุนได้ ทั้งนี้ มองราคาน้ำมันเฉลี่ยทั้งปีที่ 70-75 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ด้านธุรกิจไฟฟ้า มองว่าไม่ใช่หุ้นหวือหวา แต่เป็นลักษณะ dividend play มากกว่า ความน่าสนใจในปีที่ผ่านมาหมดไปแล้วจากการประมูลโรงไฟฟ้า IPP ซึ่งผู้ประกอบการหลักๆ พลาดไป จะมีแค่ บมจ.โกลว์ พลังงาน(GLOW)ที่ได้โรงไฟฟ้าถ่านหินแต่ก็ต้องติดตามว่าจะผ่านแผนจัดการด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) หรือไม่ จากนี้ไปการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นจะบีบมาร์จิ้นให้น้อยลง ซึ่งจะทำให้ Return จากโครงการน้อยลงไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่องได้อยู่แล้วตามการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศเหมาะเป็นหุ้นลงทุนเพื่อปันผลมากกว่าจึงไม่ให้น้ำหนักมาก
ส่วนธุรกิจถ่านหินความน่าสนใจปีนี้คงจะน้อยกว่าที่ผ่านมาเพราะราคาหุ้นปรับสูงขึ้นมากแล้วเทรนคล้ายๆกับน้ำมัน เป็นพลังงานอีกทางเลือกหนึ่งในช่วงที่ราคายังสูงอยู่ เพราะต้นทุนจากการผลิตโดยใช้ถ่านหินค่อนข้างต่ำกว่า 2-3 เท่า ผู้ประกอบการอาจสนใจที่จะเปลี่ยนจากการใช้น้ำมันมาใช้ถ่านหิน และในช่วงที่ผ่านมาการเติบโตของดีมานด์การใช้ถ่านหินจะโตในภาคของไฟฟ้าค่อนข้างมาก เมื่อมีโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่งขึ้นมาทำให้ดีมานด์ถ่านหินเพิ่มอีก 25 ปีเพื่อให้รองรับการผลิตไฟฟ้าตลอดอายุการใช้งานของโรงไฟฟ้า ดีมานด์ค่อนข้างจะแข็ง
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าอนาคตถ่านหินราคาจะทรงตัว ระดับราคาอาจจะอ่อนตัวไม่มากแถว 60-70 เหรียญสหรัฐ/ตัน ไม่ต่ำกว่านี้แน่นอนจึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มองว่าบมจ.บ้านปู (BANPU) บมจ.ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) บมจ.ลานนารีซอร์สเซส (LANNA) ผลประกอบการจะดีกว่าในช่วงที่ผ่านมา แต่ถ้าเทียบ yoy คงไม่ดีเท่าปีที่ผ่านมา ถ้าราคาน้ำมันปรับตัวลดลงราคาถ่านหินคงจะอ่อนตัวลงบ้าง แต่ BANPU จะมีน้ำหนักที่โรงไฟฟ้า BLCP จะมีรายได้ตรงนี้เข้ามาช่วย
นายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.บีฟิท ให้ความเห็นว่า ปี 51 คาดราคาน้ำมันเฉลี่ยน่าจะขยายตัวประมาณ 11-12% จากปีที่แล้วเฉลี่ยอยู่ที่ 70-71 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล มองว่าเทรนราคาน้ำมันเฉลี่ยสูงขึ้นกว่าปีแล้วอย่างต่อเนื่อง
แต่ประเด็นปี 51 สิ่งที่จะกระทบในด้านราคาน้ำมันมีทั้งบวกและลบ ถ้าในด้านบวกปัจจัยเดิมภาวะอุปทานถ้าปัจจัยที่เป็นลบกับราคาน้ำมันเศรษฐกิจของประเทศใหญ่อาจจะไม่โตอย่างคาดหรือชะลอตัวอาจมีผลให้การใช้น้ำมันต่ำกว่าคาดได้ ตรงนี้เป็นเหตุผลให้อาจจะมีบางช่วงที่ราคาน้ำม้นขึ้นและปรับตัวลง
หุ้นที่แนะนำถ้าเน้นพื้นฐานดูในเรื่องของการเติบโตของกำไรสุทธิที่โตมากกว่ากลุ่มคือ TOP PTTEP 2 ตัวหลักนี้โตมากสุดเทียบกับการเติบโตของกำไรสุทธิค่าเฉลี่ยของกลุ่มอยู่ที่ประมาณ 8-8.5% รองลงมา BANPU
"กลุ่มน้ำมันเล่นได้ตลอดเพราะราคาลงมาพื้นฐานก็ไม่ได้เปลี่ยน ในแง่ performance ของกลุ่มยังดีเมื่อเทียบกับตลาด เป็นหุ้นพื้นฐานที่ค่อนข้างจะแข็งแรงอยู่" นายอนุพนธ์ กล่าว
TOP (เป้าหมาย 108 บาท) PTTEP 173 บาท BANPU 430 บาท อาจจะมีการปรับอีกที ส่วน PTT ยังเป็นหุ้นที่ลงทุนได้ เพราะราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็นให้ไว้ที่ 134 บาท ,PTTAR น่าสนใจให้ราคาที่ 56-62 บาท แต่อาจกำหนดราคาอีกที เพราะในแง่ตัวเลขยังไม่ละเอียดมากนักในงบ,บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) น่าเล่นในแง่ของกำไรปีที่แล้วที่โตมากถึงแม้ปีนี้อาจจะไม่หวือหวาสำหรับ IRPC แต่ราคาหุ้นถือว่า under value
ทั้งนี้ ในเชิงเปรียบเทียบพบว่าราคาหุ้นที่ปรับขึ้นมากที่สุดในปี 50 (จากต้นปี 3 ม.ค.-28 ธ.ค.50) คือ BANPU ที่ปรับขึ้น 119% PTT บวก 80% PTTEP บวก 70% TOP บวก 66% หุ้นใหญ่บวกขึ้นค่อนข้างมาก ขณะที่หุ้นเล็กอย่าง LANNA บมจ. บางจากปิโตรเลียม (BCP) ก็บวกเช่นกัน ส่วนที่บวกไม่มากคือกลุ่มไฟฟ้า และ IRPC บวกแค่ 4% ถือว่าบวกน้อยผิดคาดเมื่อเทียบกับกลุ่ม
น.ส.มยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน บล.นครหลวงไทย มีมุมมองในเชิงบวก (Bullish) ต่อกลุ่มพลังงาน แม้ว่า earning อาจจะโตไม่ได้โดดเด่นแต่ก็ยังเห็นการเติบโต สาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันเป็นหลักสำหรับผลประกอบการของกลุ่มพลังงานในปีนี้ Overweigth หุ้นเด่นเลือก PTTEP กับ TOP
PTTEP ได้ประโยชน์ในเรื่องของราคาน้ำมันและปริมาณคือแหล่งอาทิตย์เริ่มผลิต ก.พ.นี้ ราคาเป้าหมาย 178 บาท, TOP เรื่องโรงกลั่นเพราะการบริโภคน้ำมันต้องผ่านการกลั่นซึ่ง TOP ค่าการกลั่นค่อนข้างจะดีกว่าปีที่ผ่านมาที่เฉลี่ยอยู่ที่ 7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และ TOP มีการเพิ่มกำลังการผลิตช่วงไตรมาส 4/50 เพราะฉะนั้นกำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นมาไตรมาส 1/51 ทันที ราคาเป้าหมาย 112 บาท
กลุ่มไฟฟ้าเป็นหุ้น defensive ปีที่แล้วคึกคักขึ้นมาเพราะมีการประมูล IPP พอหมดรอบนั้นแล้วการประมูลรอบใหม่ยังไม่เห็นอะไรที่ชัดเจน Key Driver สำหรับโรงไฟฟ้ายังไม่เห็นอะไรที่น่าสนใจปี 51
กลุ่มถ่านหิน ราคาถ่านหิน ณ ตอนนี้ค่อนข้างจะปรับตัวลงมา BANPU คงเป็นเทรดดิ้งมากกว่า ณ วันนี้ surprise growthไม่มีแล้วเป็นลักษณะเทรดดิ้งตามราคาถ่านหินเป็นหลัก
ราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน ตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นปี 2550 มีความเปลี่ยนแปลง ดังนี้
หุ้น 3 ม.ค.50(บาท/หุ้น) 28 ธ.ค.50(บาท/หุ้น) เปลี่ยนแปลง(%)
PTT 204.00 376.00 +84.32
PTTEP 94.50 164.00 +73.55
TOP 51.00 86.50 +69.61
BANPU 178.00 400.00 +124.72
IRPC 5.90 6.35 +7.63
LANNA 11.40 18.10 +58.78

แท็ก ปิโตรเคมี   PTTEP   pttar  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ