ดัชนีหุ้นไทยภาคเช้าร่วงกว่า 10 จุด นับเป็นการปรับลดลงติดต่อกันเป็นวันที่สาม ซึ่งเป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังดัชนีดาวโจนส์ลงไปแรงเมื่อวานนี้ รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งความความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและซาอุดีอาระเบีย ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน กดดันให้มีแรงขายนำออกมาในหุ้นขนาดใหญ่
เมื่อเวลา 10.43 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,672.40 จุด ลดลง 10.51 จุด (-0.62%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.49 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,668.22 จุด ลดลง 14.69 จุด (-0.87%)
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงกว่า 10 จุด เป็นไปตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ติดลบกันราว 0.3-0.4% แม้ตลาดหุ้นจีนจะฟื้นตัวขึ้นมาได้บ้าง ทั้งนี้ เป็นผลจาก Fund Flow ยังคงไหลออกอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯกลับมาแข็งค่า อีกทั้งเฟด ยังเดินหน้าที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งขณะนี้มีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ถึง 90% แล้ว
พร้อมให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 3/61 โดยสัปดาห์หน้าก็จะเป็นกลุ่ม Real Sector และก็จะมีการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ด้วย
พร้อมให้แนวรับ 1,670 จุด ซึ่งหากลงมาแถวนี้ก็มีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นได้บ้าง ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,685 จุด