(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นสิงคโปร์: แรงซื้อทำกำไรหนุนสเตรทส์ไทม์ปิดบวก 40.73 จุด

          ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้ (4 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจของสหรัฐ และส่งแรงซื้อทำกำไรเข้ามาหลังจากที่ตลาดร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้
          อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนธ.ค.ในคืนนี้ และหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบได้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 2
          สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ปิดบวก 40.73 จุด หรือ 1.2% ปิดที่ 3,437.79 จุด หลังฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดที่ 3,357.72 จุด เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มบลูชิป โดยในสัปดาห์นี้ดัชนีร่วงลง 0.2% มีปริมาณการซื้อขาย 2.0 พันล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 1.98 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
          นักลงทุนเริ่มหันมาซื้อหุ้นกลุ่มบริษัทประกอบการต่อเรือ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความต้องการอุปกรณ์สำรวจน้ำมันและเรือบรรทุกสินค้าที่เพิ่มขึ้น
          โดยหุ้นคอสโก้ คอร์ป พุ่งขึ้น 33 เซนต์ อย่างไรก็ตาม กิมเอง ซิเคียวริตี้ส์ และดีบีเอส วิคเกอร์ส ได้ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของคอสโก้เป็น "buy" หลังจากที่หุ้นได้ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุด ส่วนหุ้นเค็พเพล คอร์ป เพิ่มขึ้น 28 เซนต์
          หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นดีบีเอส กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ หุ้นธนาคารยูโอบี เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ และหุ้นโอซีบีซี เพิ่มขึ้น 9 เซนต์
          ส่วนหุ้นกลุ่มบลูชิปอื่นๆดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นสิงคโปร์ เทเลคอมมิวนิเคชั่นส เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ และหุ้นสิงคโปร์ เอ็กซ์เชงจ์ เพิ่มขึ้น 6 เซนต์
          "ปัจจัยภายนอกมีผลต่อสิงคโปร์อย่างมาก หากเศรษฐกิจของสหรัฐชะลอตัวลงอีก เศรษฐกิจของสิงคโปร์ก็จะทรุดลงด้วย" แดเนียล แม็คคอร์แมค นักยุทธศาสตร์จากแม็คควอรี ซิเคียวริตี้ส์กล่าว
          หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นซิตี้ ดีเวล็อปเม้นท์ส ลดลง 18 เซนต์ และหุ้นวิง ไต๋ ลดลง 6 เซนต์
          ทั้งนี้ ดีบีเอส วิคเกอร์ส ซิเคียวริตี้ส์ ได้คงอันดับความน่าลงทุนของภาคอสังหาริมทรัพย์ไว้ที่ "neutral" เนื่องจากอัตราการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ในปี 2550 คาดว่าจะชะลอตัวลง หลังจากที่ได้ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในปีที่แล้ว ทั้งในตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยและอาคารสำนักงาน