โบรกเกอร์แนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.โซนิค อินเตอร์เฟรท (SONIC) หลังมองกำไรสุทธิเดินหน้าทำนิวไฮต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปี 61-63 จากยอดขายและบริการที่เพิ่มขึ้นของบริการขนส่งทางเรือ บริการขนส่งทางบกจากการขยายจำนวนรถที่ให้บริการ ตลอดจนเสริมทีมบุคลากร รองรับขยายธุรกิจการจัดการขนส่งทางอากาศที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงเข้ามาช่วยหนุนผลการดำเนินงาน
ขณะที่อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ตามมูลค่าการนำเข้าและส่งออกที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากความได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์และฝีมือแรงงาน อีกทั้งยังได้แรงหนุนจากภาครัฐในการพัฒนาเส้นทางขนส่งด้วย นอกจากนี้ SONIC ยังควบคุมต้นทุนได้ดี และมีแผนขยายลงทุนต่อเนื่อง ด้วยการเพิ่มหัวลาก หางลาก และรถบรรทุก เพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจบริการขนส่งสินค้าทางบก และข้ามแดนในแถบประเทศเพื่อนบ้าน
ราคาหุ้น SONIC ปิดช่วงเช้าอยู่ที่ 1.77 บาท ลดลง 0.07 บาท หรือ 3.8% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 0.22%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) เคทีบี (ประเทศไทย) ซื้อ 3.10 เอเอสแอล ซื้อ 3.50 ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 3.00
นักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ SONIC จะทำกำไรสุทธิสูงสุดใหม่ในปี 61 และเติบโตต่อเนื่องในปี 62-63 จากอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้นตามยอดการนำเข้าและส่งออกสินค้าที่ยังเติบโตสูง โดยมูลค่าการส่งออกของไทยคิดเป็น 55% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตเฉลี่ยราว 3% ต่อปี ขณะที่ในช่วงไตรมาส 2/61 เติบโตถึง 6.4% จากความได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์และฝีมือแรงงาน อีกทั้งยังได้แรงหนุนจากภาครัฐในการพัฒนาเส้นทางขนส่งด้วย
ทั้งนี้ ถึงแม้การแข่งขันในอุตสาหกรรมจะอยู่ในระดับสูง แต่ SONIC เป็นผู้ให้บริการแบบครบวงจรที่มีคุณภาพและพันธมิตรกว้างขวาง ทำให้การแข่งขันโดยตรงไม่ถึงกับรุนแรง ส่งผลให้ SONIC สามารถรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นที่ 21-23% และอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิที่ดีกว่าอุตสาหกรรมในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ ประเมินกำไรสุทธิของ SONIC ในปี 61 จะเติบโต 37% มาที่ 63 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 29% เป็นระดับ 81 ล้านบาทในปี 62 จากการลงทุนในรถบรรทุกหัวลาก หางลาก และรถบรรทุกเพิ่มขึ้นด้วยงบลงทุนประมาณ 60 ล้านบาท และจะเพิ่มจำนวนบุคลากรในส่วนงานที่เกี่ยวข้องอีกประมาณ 20 คน ซึ่งจะมาช่วยทำยอดขายในส่วนของบริการขนส่งทางอากาศที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าการขนส่งในแบบอื่น ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของ SONIC จะกลับมาดีขึ้นได้ในปี 62 จากสัดส่วนรายได้บริการขนส่งทางอากาศที่จะเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 62 ของ SONIC ได้ที่ 3.10 อิง PER เท่ากับ 21.4 เท่า (เทียบเท่า PEG ที่ 1 เท่า) ซึ่งมีการเติบโตของกำไรสุทธิ/หุ้น (EPS) เฉลี่ย ปี 60-63 ที่ 21.4% โดยมองว่าครึ่งปีหลังจะเป็นช่วง High season ของธุรกิจโลจิสติกส์ และปีหน้าผลประกอบการของ SONIC จะเติบโตอย่างโดดเด่น
ด้านบทวิเคราะห์ บล.เอเอสแอล คาดกำไรสุทธิของ SONIC ในปีนี้จะเติบโตได้ถึง 39% มาที่ราว 64 ล้านบาท โดยการเติบโตมาจากการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน การเพิ่มจำนวนพนักงาน การขยายธุรกิจให้บริการขนส่งทางอากาศ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจบริการที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง และปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่กำไรสุทธิในปี 62 คาดว่าจะเติบโต 22.4% มาที่ 78 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 13.8% มาที่ 89 ล้านบาทในปี 63 จากการควบคุมต้นทุนที่ดี รวมทั้งการขยายการลงทุน โดย SONIC มีแผนลงทุนเพิ่มหัวลาก หางลาก และรถบรรทุก เพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจบริการขนส่งสินค้าทางบก และข้ามแดนในแถบประเทศเพื่อนบ้าน
ทั้งนี้ เริ่มต้นคำแนะนำเชิงปัจจัยพื้นฐาน"ซื้อ"สำหรับ SONIC จากแนวโน้มผลประกอบการระหว่างปี 60-63 ที่เติบโตเฉลี่ยมากถึง 18% ต่อปี ถือว่าโดดเด่นกว่ากลุ่ม และมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจโลจิสติกส์ของไทย ที่มีความได้เปรียบในเชิงภูมิศาสตร์ เอื้อต่อการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งทั้งด้านทางบก ทางทะเล และทางอากาศ รวมไปได้ประโยชน์โดยตรงจากการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจโลก รวมไปถึงเศรษฐกิจไทยที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ยังเชื่อว่าจะเห็นการเติบโตที่ต่อเนื่อง และโดดเด่นกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่ม Emerging Country