นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ในปี 51 กบข.ยังคงให้ความสำคัญกับรูปแบบการลงทุนให้เป็นไปตามนโยบายที่ได้กำหนดไว้ โดยยังคงเน้นที่การจัดสรรการลงทุนระยะยาว (Strategic Asset Allocation: SAA) เป็นสำคัญ เน้นกระจายการลงทุนที่มีความหลากหลาย และกระจายการลงทุนไปต่างประเทศมากขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยง
ในส่วนการลงทุนต่างประเทศ กบข.ได้เตรียมแผนที่จะเพิ่มน้ำหนักลงทุนในตราสารทุนโลก เพื่อกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดอื่นๆ เช่น ตลาดหุ้นเอเชีย เพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตลาดหุ้นไทย รวมทั้งคาดการณ์ว่าตลาดการเงินภูมิภาคเอเชียจะได้รับผลกระทบจากปัญหาซับไพร์มน้อยกว่าตลาดพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐฯ เป็นต้น
"จากสถานการณ์ในปัจจุบันต้องยอมรับว่า การลงทุนในปีนี้มีความเสี่ยงที่ท้าทายทั้งปัจจัยภายในและภายนอก โดยในส่วนของปัญหาซับไพรม์ เชื่อว่าจะยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกให้มีอัตราการขยายตัวชะลอลง และทำให้ค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลอื่น" นายวิสิฐ กล่าว
ขณะเดียวกัน การจัดสรรสัดส่วนการลงทุนในส่วนของตราสารทุนในประเทศ กบข. จะยังคงสัดส่วนไว้ที่ 12% ของเงินกองทุน โดยเน้นการลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดี มีการเลือก Industry และ Stock อย่างระมัดระวัง
ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ แนวโน้มดอกเบี้ยในปีนี้คาดว่าจะอยู่ในช่วงขาขึ้น กบข.จึงมีนโยบายลดระยะเวลาการถือครองตราสารหนี้ลง โดยลดสัดส่วนการถือครองพันธบัตรระยะยาว และหันมาถือครองตราสารหนี้ระยะสั้นอายุ 3-4 ปี เพื่อให้ผลักดันผลตอบแทนให้สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทอื่นๆ เพื่อป้องกันปัญหาเงินเฟ้อนั้น ก็ได้มีการเตรียมการที่จะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งหลักทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนมั่นคงในระยะยาว
--อินโฟเควสท์ โดย อภิญญา วุฒิเมธากุล/เสาวลักษณ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--