โบรกฯ คาดแนวโน้มกลุ่มค้าปลีกเด่นตามบริโภคฟื้นตัว-ยังขยายสาขาต่อเนื่อง

          โบรกเกอร์คาดกลุ่มธุรกิจค้าปลีกจะได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของการบริโภคภายในประเทศที่ติดตามมากับการฟื้นตัวของการลงทุนจากความเชื่อมั่นที่มีมากขึ้นหลังการเลือกตั้ง ซึ่งทั้งสองตัวจะเป็นเป้าหมายในการกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่แน่นอน ขณะที่การขยายสาขาของห้างขนาดใหญ่จะยังคงมีอย่างต่อเนื่องในปีนี้โดยเฉพาะในต่างจังหวัด เพราะมองว่ากฎหมายค้าปลีกฉบับใหม่ยังล่าช้าออกไป แนะลงทุนหุ้น CPALL, HMPRO และ BIGC 
          บทวิเคราะห์ของ บล.เคจีไอ ระบุว่า แนวโน้มธุรกิจค้าปลีกปี 51 จะได้รับอานิสสงส์จากการฟื้นตัวของการบริโภคภายในประเทศจะก่อให้เกิดการขยายตัวที่ดี, รัฐบาลใหม่จะไม่สามารถปรับแก้ พ.ร.บ. ธุรกิจค้าปลีกได้จนถึงไตรมาส 4/51 หรือช้ากว่านั้น 
          "ภาระสำคัญของรัฐบาลใหม่คือการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสร้างความเชื่อมั่น และทำให้ประชาชนพอใจ เนื่องจาก 13% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศมาจากการค้าปลีก ในความเห็นของเรา ร่างพ.ร.บ. ธุรกิจค้าปลีกควรได้รับการแก้ไขเนื่องจากร่างฯ ในปัจจุบันจำกัดการขยายตัวของธุรกิจค้าปลีก และเชื่อว่าหากรัฐบาลใหม่ต้องการจะเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ พรบ. ธุรกิจค้าปลีก ควรได้รับการแก้ไขให้มีความยืดหยุ่นและเหมาะสมสำหรับผู้ค้าปลีกก่อนนำมาใช้"
          ดังนั้น คาดว่าการทยอยเปิดสาขาใหม่ของผู้ประกอบการแต่ละรายยังจะมีให้เห็นต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 1/51 เป็นต้นไป ทั้งในส่วนของ บมจ. บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (BIGC), บมจ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO), บมจ. ซีพี ออลล์ (CPALL) รวมทั้ง บมจ. สยามแม็คโคร (MAKRO)
          "เชื่อว่าไตรมาส 1/51 จะเป็นอีกไตรมาสที่ดีสำหรับกลุ่มค้าปลีก โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จำนวนการขยายสาขาเพิ่มในปี 2550-51 และการปรับตัวของราคาสินค้า เราเลือก MAKRO และ CPALL เป็นหุ้นเด่นจากงบการเงินที่แข็งแกร่ง อัตราการจ่ายเงินปันผลที่อยู่ในระดับสูง (โดยเฉพาะ MAKRO) สำหรับ HMPRO เราเชื่อว่าบริษัทฯจะได้รับจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในกลุ่มอสังหาฯ นอกจากนี้เรายังชอบ BIGC เนื่องจากบริษัทฯ มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีในขณะนี้"
          ด้าน น.ส.สุทธาทิพย์ พีรทรัพย์ นักวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง มองแนวโน้มหุ้นกลุ่มค้าปลีกปี 51 น่าจะดีขึ้นจากปี 50 จากการคาดการณ์ถึงการฟื้นตัวของความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ภาวะการจับจ่ายใช้สอยต่างๆ ภาวะเศรษฐกิจและประเด็นทางการเมืองที่มีความชัดเจนมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว 
          นอกจากนี้ในส่วนของการขยายตัวของกลุ่มค้าปลีกต่างๆ ในแง่ของการขยายสาขาทั้งในส่วนของดิสเคาน์สโตร์ ร้านสะดวกซื้อก็จะยังมีให้เห็นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ หลังจาก ร่างพรบ.ค้าปลีกค้าส่งยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะมีส่วนผลักดันให้ภาคธุรกิจนี้มีการขยายตัวมากขึ้น
          อย่างไรก็ตาม การขยายสาขาของค้าปลีกคงจะพุ่งเป้าไปในพื้นที่ต่างจังหวัดเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่พื้นที่กรุงเทพฯ ก็น่าจะยังมีให้เห็นบ้างประปราย
          สำหรับหุ้นน่าสนใจในกลุ่มนี้ คือ CPALL, HMPRO และ BIGC 
          ในส่วนของ CPALL ทั้งจากปัจจัยภายนอกคือ ความมั่นใจของผู้บริโภค ปัจจัยภายใน คือ การเติบโตของธุรกิจทั้งภายในประเทศจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายสาขาเดิมของร้านเซเว่นอิเลฟเว่นที่มีครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศถึง 4,199 สาขา ณ สิ้นเดือนกันยายน 2550 และการเปิดสาขาใหม่ 400-450 สาขา/ปี ขณะที่ธุรกิจในต่างประเทศที่ภายหลังการขายโลตัสที่ประเทศจีนซึ่งขาดทุนออกไปแล้วจะส่งผลให้ CPALL มีกำไรเติบโตก้าวกระโดดในปี 2551 
          สำหรับ HMPRO ก็เป็นหุ้นที่เราแนะนำ เนื่องจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น การเปิดสาขาใหม่ 4-5 สาขาในปี 2551 มีรายได้เพิ่มเติมจากการจัดงาน Home Pro Expo และรายได้ค่าเช่า
          ส่วน BIGC ก็จะได้ประโยชน์จากการเปิดสาขาใหม่ไม่ต่ำกว่า 4 สาขาในปี 2551 รวมทั้งการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมซึ่งจะได้รับการผลักดันจากเศรษฐกิจและการจับจ่ายใช้สอยที่คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้น
          ราคาหุ้นในกลุ่มค้าปลีก ตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นปี 2550 มีความเปลี่ยนแปลง ดังนี้ 
          หุ้น          3 ม.ค.50(บาท/หุ้น)  28 ธ.ค.50(บาท/หุ้น)           เปลี่ยนแปลง(%)
          CPALL           6.15              10.90                     +77.24
          HMPRO           5.50               4.94                     -10.19
          BIGC           46.00              46.75                      +1.63
          MAKRO          99.00              99.00                        -