ดัชนีหุ้นไทยเปิดเช้านี้ร่วงกว่า 17 จุด ก่อนจะไหลลงไปเป็นกว่า 23 จุด หลุดระดับ 1,600 จุด ต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือน ซึ่งเป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับลดลง หลังดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 600 จุดเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่ายอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐร่วงลงติดต่อกัน 4 เดือน และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งระบุว่าภาคธุรกิจของสหรัฐได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้า ขณะที่ยังมีแรงขายนำออกมาในหุ้นขนาดใหญ่ในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเวลา 9.57 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,605.91 จุด ลดลง 17.46 จุด (-1.08%)
เมื่อเวลา 10.02 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,602.70 จุด ลดลง 20.67 จุด (-1.27%)
เมื่อเวลา 10.08 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,606.31 จุด ลดลง 17.06 จุด (-1.05%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.26 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,599.65 จุด ลดลง 23.72 จุด (-1.46%)
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงกว่า 20 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ปรับตัวลงกันทั่วหน้าเฉลี่ยราว 1% หลังดาวโจนส์ร่วงแรงเมื่อคืนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ รับผลจากความกังวลเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงจากผลกระทบของสงครามการค้า และหลายปัจจัยในต่างประเทศที่มีผลต่อตลาดฯ นอกจากนี้ Fund Flow ยังคงไหลออกอย่างต่อเนื่อง
พร้อมให้แนวรับ 1,600-1,580 จุด ส่วนแนวต้าน 1,615 จุด