นายปิติ จารุกำจร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและบริหารกลยุทธ์ บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดโครงการคอนโดมิเนียมเจาะกลุ่มลูกค้ารักสุขภาพ ร่วมกับพันธมิตรโดยเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างแสนสิริ และบริษัท โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด พร้อมได้ความร่วมมือกับกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวชและโรงพยาบาลบีเอ็นเอชในการให้บริการด้านสุขภาพแก่ลูกบ้าน ภายใต้คอนเซ็ปต์ "เวลล์เนส เรสซิเดนซ์" ซึ่งจะเปิดโครงการแรกในปี 62 มูลค่า 2.4 พันล้านบาท บนทำเล 7 ไร่ ย่านกรุงเทพกรีฑา ซึ่งจะใช้แบรนด์ใหม่ และรูปแบบเป็นคอนโดมิเนียม 8 ชั้น 4 อาคาร เป็นอาคารพักอาศัย 3 อาคาร และอาคารพื้นที่ส่วนกลาง 1 อาคาร ส่วนราคาขายยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
โครงการ "เวลล์เนส เรสซิเดนซ์" จะเน้นกลุ่มลูกค้ารายได้ 50,000-80,000 บาท/เดือน และเน้นกลุ่มลูกค้าชาวไทย 80% ส่วนลูกค้าต่างชาติจะมีสัดส่วน 20% ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าชาวจีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ และญี่ปุ่น โดยโครงการแรกในปี 62 จะเป็นโครงการนำร่องในรูปแบบที่อยู่อาศัยด้านสุขภาพ พร้อมกับวางแผนจะเปิดโครงการดังกล่าวอย่างน้อย 1 โครงการ/ปี ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยสัดส่วนมูลค่าโครงการดังกล่าวคิดเป็น 5-8% ของมูลค่าโครงการรวมที่เปิดในแต่ละปี โดยที่ดินที่จะใช้เปิดโครงการต้องมีขนาด 5-7 ไร่
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะขยายโครงการ "เวลล์เนส เรสซิเดนซ์" ไปสู่โครงการแนวราบอีกด้วย เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมองเห็นโอกาสของเทรนด์สุขภาพ เพราะคนเราใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากกว่าเมื่อเทียบกับเวลาในชีวิต และพร้อมจะจ่ายในสิ่งที่ต้องการเพื่อการดูแลสุขภาพ จากบ้านที่เราอาศัยสู่การใช้ชีวิตที่หลากหลายรวมถึงการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ดังนั้น การได้อยู่ในบ้านที่ถูกสร้างเพื่อส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพดี จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนทุกวัย
จากรายงานการศึกษาเรื่องที่อยู่อาศัยเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี (Build Well to Live Well 2018) ที่สถาบันสุขภาพโลก (Global Wellness Institute) จัดทำขึ้นในปีนี้ พบว่านับตั้งแต่ปี 48 เป็นต้นมา การพัฒนาที่อยู่อาศัยในกลุ่มเวลล์เนสเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีทั่วโลกมีมูลค่าตลาดประมาณ 4.4 ล้านล้านบาท หรือ 1.34 แสนล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการเติบโต 6.4% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมการก่อสร้างของโลกที่เติบโตที่ 1.5% และสามารถทำกำไรเฉลี่ยประมาณ 10-25% โดยปัจจุบัน มีโครงการและชุมชนที่เน้นการสร้างไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพดีประมาณ 740 แห่งทั่วโลก
สำหรับแผนการเปิดโครงการใหม่ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทเตรียมเปิดอีก 4 โครงการ มูลค่าราว 1 หมื่นล้านบาท ได้แก่ โครงการคอนโดมีเนียมสไตล์รีสอร์ท หัวหิน มูลค่า 2.3 พันล้านบาท โครงการคอนโดมิเนียม THE LINE พหลโยธิน พาร์ค มูลค่า 5 พันล้านบาท และ โครงการทาวน์โฮม แบรนด์สิริเพรส 2 โครงการ มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท โดยที่ยอดขายในปีนี้ยังมั่นใจทำได้ตามเป้า 5 หมื่นล้านบาท โดยช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ทำยอดขายรวมแล้ว 4.15 หมื่นล้านบาท
ด้านมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยของทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มองว่า ในระยะสั้นจะส่งผลดีต่อการโอนที่ลูกค้าจะเร่งโอนมากขึ้นก่อนมาตรการเริ่มบังคับใช้ แต่ในระยะยาวยังต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง เพราะมาตรการดังกล่าวยังไม่ได้ข้อสรุปของเงื่อนไขต่าง ๆ ออกมาชัดเจน ทำให้บริษัทยังไม่ได้ปรับเกณฑ์การผ่อนดาวน์ของลูกค้าที่ซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการของบริษัท ซึ่งปัจจุบันลูกค้าของบริษัทจะวางเงินดาวน์เฉลี่ย 10-15% อย่างไรก็ตามหากมาตรการออกมามีผลบังคับใช้เชื่อว่าจะกระทบต่อผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด รวมถึงตัวบริษัทเอง แต่การพัฒนาที่อยู่อาศัยของบริษัทยังเน้นไปที่ลูกค้าที่ต้องการอยู่อาศัยที่แท้จริงเป็นหลัก