ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,644.33 จุด เพิ่มขึ้น 20.96 จุด (+1.29%) มูลค่าการซื้อขาย 76,086.34 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,645.91 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,596.40 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 948 หลักทรัพย์ ลดลง 570 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 401 หลักทรัพย์
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงแรงเกินไปทำให้เกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์ และพลิกกลับมายืนในแดนบวกได้สวนทางตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะติดลบ โดยตลาดฯคงจะมีตัวช่วยที่มาจากการมองว่าดัชนีฯเข้าเขต Oversold แล้ว และได้แรงหนุนจากเม็ดเงินลงทุนของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) มาช่วยด้วย อีกทั้งดาวโจนส์ฟิวเจอร์วันนี้ก็บวกได้กว่า 100 จุด ขณะที่หลายปัจจัยนอกประเทศยังกดดันอยู่เหมือนเดิม
"ตอนนี้ตลาดฯกลับมาเทรด P/E แถว 14 เท่ากว่า ๆ ทำให้คนมอง Valuation เริ่มถูก จาก Upside ที่มีมากขึ้น คนที่เล่นเก็งกำไรก็เข้ามารับซื้อ ดังนั้น ดัชนีฯก็เลยพลิกกลับขึ้นไปได้เร็วด้วย...เวลาที่หุ้นร่วงแรงก็มักมีพวกเก็งกำไรเข้ามาซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ"
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (26 ต.ค.) นายถนอมศักดิ์ กล่าวว่า ช่วงนี้ตลาดฯคงจะผันผวนสูง ซึ่งทิศทางตลาดฯจะเป็นอย่างไรคงจะต้องรอดูทิศทางตลาดสหรัฐฯคืนนี้ก่อน พร้อมให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่วนบ้านเราก็ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/61 ต่อไป
พร้อมให้แนวรับ 1,620-1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,650 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 5,373.53 ล้านบาท ปิดที่ 49.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 4,420.97 ล้านบาท ปิดที่ 63.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,985.49 ล้านบาท ปิดที่ 137.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
IVL มูลค่าการซื้อขาย 3,346.94 ล้านบาท ปิดที่ 52.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 2,719.84 ล้านบาท ปิดที่ 76.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท