KLeasing ตั้งเป้าปี 51 ปล่อยสินเชื่อใหม่ 4.3 หมื่นลบ.โตเกือบเท่าตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 7, 2008 13:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายอิสระ วงศ์รุ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลิสซิ่งกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ปี 51 บริษัทตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ 43,200 ล้านบาท แบ่งเป็น สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 29,700 ล้านบาท และ สินเชื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ 13,500 ล้านบาท
ณ สิ้นปี 51 คาดว่ายอดสินเชื่อคงค้างน่าจะอยู่ที่ 46,200 ล้านบาท แบ่งเป็น สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 41,900 ล้านบาท สินเชื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ 4,300 ล้านบาท และในปีนี้จะมีกำไรหลักหักสำรอง 284 ล้านบาท จากปีที่แล้วที่มีกำไร 25 ล้านบาท
"ปีนี้ที่ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 4.3 หมื่นลบ. เป็นไปตามยอดขายรถยนต์ที่คาดจะโต 4-9%" นายอิสระ กล่าว
อนึ่ง ในปี 50 บริษัทปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 22,600 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้ที่ 25,000 ล้านบาท หรือ ต่ำกว่าเป้าหมาย 10% เนื่องจากยอดขายรถยนต์ชะลอตัว ประกอบกับบริษัทรถยนต์ทำแคมเปญกับบริษัทเอง ทำให้แย่งลูกค้าไปมาก แต่ก็ยังสามาถรถ Break Event ได้ในเดือนเม.ย.50 เร็วกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่เดือน ส.ค.50
นายอิสระ กล่าวว่า แต่ในปีนี้คาดว่ายอดขายรถยนต์จะเพิ่มขึ้นตามความต้องการเปลี่ยนรถใหม่ และจากการที่บริษัทรถยนต์ออกรถประหยัดพลังงานมาจำหน่าย น่าจะมีส่วนช่วยกระตุ้นตลาดได้ด้วย ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงสำคัญของธุรกิจในปีนี้ คือ เรื่องของเสถียรภาพด้านการเมือง ส่วนปัจจัยต่างประเทศ คือ ปัญหาซับไพร์ม แต่อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วเศรษฐกิจปีนี้น่าจะดีกว่าปีที่แล้ว
กลยุทธ์ที่บริษัทจะใช้ในปีนี้ คือเน้นในเรื่องเวลาอนุมัติและการจ่ายเงินเร็ว เพราะในเรื่องของดอกเบี้ยคงไม่ได้แตกกต่างจากที่อื่น โดยบริษัทจะใช้กลยุทธ์อนุมัติสินเชื่อภายใน 30 นาที ซึ่งจะเริ่มทดลองระบบในเดือนม.ค. และเปิดให้บริการในพื้นที่
กรุงเทพฯ ประมาณก.พ. จากนั้นจะเปิดใช้ได้ทั่วประเทศราวเดือนเม.ย.
นายอิสระ กล่าวต่อว่า คาดว่าภายในปีนี้จะสามารถล้างขาดทุนสะสมที่มีประมาณ 200 กว่าล้านบาทได้หมด จากที่คาดว่าปีนี้จะมีกำไร 284 ล้านบาท และจากปีก่อนอีก 25 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทมีแผนจะเปิดศูนย์บริการธุรกิจเพิ่มอีก 3 แห่ง คือ ที่จ.นครราชสีมา อุบลราชธานี สุราษฎร์ธานี จากปัจจุบันที่มีศูนย์บริการธุรกิจ 13 แห่ง แบ่งเป็น กทม. 4 แห่ง และต่างจังหวัด 9 แห่ง
ทั้งนี้ ในปีนี้คาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมน่าจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 35% จากที่ปัจจุบันมีสัดส่วน 30% เนื่องจากขณะนี้พอร์ตของบริษัทใหญ่ขึ้นและถึงจุดคุ้มทุนแล้ว
สำหรับสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)คาดว่าในปี 51 จะอยู่ที่ 1.5% จากปีก่อนหน้าที่อยู่ที่ 1.36% เนื่องจากในปีนี้บริษัทตั้งเป้าจะปล่อยสินเชื่อเพิ่มมากขึ้นกว่าเท่าตัว แต่ก็ยังถือว่า NPL ต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่อยู่ที่ประมาณ 2%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ