หุ้น MINT ราคาไหลลง 3.42% มาอยู่ที่ 35.25 บาท ลดลง 1.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 197.90 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.06 น. โดยเปิดตลาดที่ 35 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 35.25 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 34.25 บาท
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯมีมุมมองเป็นกลางต่อ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ตามที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสเปน (CNMV) ได้อนุมัติการทำคำเสนอซื้อของ MINT ในบริษัท NH Hotel Group, S.A. รวมทั้งสิ้น 369,165,609 หุ้น คิดเป็น 94.1% ของทุนทั้งหมด
การที่ MINT ได้หุ้น NHH ในระดับสูงถึง 94.13% คิดเป็นเงินลงทุนที่ 8.8 หมื่นล้านบาท (อ้างอิงที่ 38 บาทต่อยูโร) เนื่องจากเป็นระดับที่สูงเกินกว่าที่ MINT เคยแจ้งไว้ที่ 55-70% โดยที่ระดับดังกล่าวคาดว่า MINT จะขาดเงินอีกราว 3.1 หมื่นล้านบาท (ปัจจุบัน MINT สามารถกู้เงินได้เพิ่มอีก 4.2 หมื่นล้านบาท คิดที่ Debt covenant ที่ 1.75x และมีการออก perpetual bond ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท รวมถึงออกหุ้นกู้ราว 3 พันล้านบาท)
MINT เคยแจ้งไว้ก่อนหน้านี้ว่า หากเข้าถือเกิน 70% จะมีการหา financial partner จากสถาบันการเงินเข้ามา ทำให้ไม่ต้องมีการเพิ่มทุน โดยเราได้ทำการคำนวณดอกเบี้ยจ่ายเมื่อเทียบกับกำไรสุทธิของ NHH ที่จะเข้ามา consol ได้เต็มปีในปีหน้า อ้างอิงจำนวนเงินที่ขาดมีการออก perpetual bond เพิ่มเติมไปก่อน เพราะคิดว่าการหา financial partner น่าจะต้องใช้เวลานาน ทำให้ได้ผลกำไรสุทธิที่ MINT สามารถรับรู้ได้จาก NHH ที่ 352 ล้านบาท คิดเป็น EPS ที่ 0.08 บาทต่อหุ้น อ้างอิง PER ที่ 28x เทียบเท่า +0.5SD ย้อนหลัง 3 ปี ทำให้ได้มูลค่าเพิ่มจากดีลนี้ราว 2.13 บาทต่อหุ้น ซึ่งน้อยกว่าที่เคยคาดไว้ที่ 3.50 บาทต่อหุ้น เพราะผลกระทบจากดอกเบี้ยจ่ายที่มีมากขึ้น
อย่างไรก็ดี เชื่อว่า MINT จะไม่มีการประกาศเพิ่มทุน แต่ในระยะสั้นจะได้รับแรงกดดันจากดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้น และมีโอกาสที่จะโดนลดอันดับ Rating หากมีการกู้เงินเพิ่มเติม แต่เรามองว่า การเข้าซื้อ NHH จะเป็นประโยชน์ได้ในระยะยาว เบื้องต้นแนะนำ"ถือ"ราคาเป้าหมายที่ 41 บาท อิง DCF (WACC 7%, TG 2%) เทียบเท่า PE ที่ 28x ที่ระดับ +0.5SD ย้อนหลัง 3 ปี