นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ (29 ต.ค - 2 พ.ย.) เคลื่อนไหวในกรอบ 1,584-1,650 จุด ทิศทางยังอยู่ในช่วงอ่อนตัวลง จากความวิตกกังวลต่อทิศทางของเศรษฐกิจโลกอันเนื่องมาจากผลของสงครามการค้า และอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่เดินหน้าปรับตัวขึ้นนั้นจะมีผลต่อกำไรของบริษัทในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำให้ตลาดหุ้นเกิดแรงขายต่อเนื่องเพราะความไม่แน่ใจว่าตลาดหุ้นจะยังดีต่อไปหรือไม่ แม้ว่าจะมีปัจจัยบวกอยู่บ้างแต่มีปัจจัยลบเข้ามามากกว่า
สำหรับปัจจัยหลักขณะนี้คือ ทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ได้รับผลกระทบสงครามการค้า และราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ทำให้การเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีผลโดยตรงต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ล่าสุดตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสที่ 3/61 ของสหรัฐฯ รายงานออกมาอยู่ที่ 3.5% ดีกว่าคาดไว้ที่ 3.4% แต่การรายงานกำไรของบริษัทบางแห่งที่ต่ำกว่าคาด จึงเกิดมุมมองว่าการเติบโตของบริษัทในตลาดหุ้นสหรัฐฯกำลังผ่านช่วงดีที่สุดไปแล้วหรือไม่ โดยในสัปดาห์นี้จะมีรายงานตัวเลขภาคการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่มีผลต่อตลาดหุ้น
ขณะเดียวกันความกังวลของนักลงทุนยังผลต่อการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนไปหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ถือว่าเป็นผลลบต่อทุกตลาดรวมทั้งตลาดใหม่ ซึ่งหากนับตั้งแต่ต้นปีมาดัชนีตลาดเกิดใหม่ปรับตัวลงมาแล้วกว่าถึง 26% และยังมีแนวโน้มที่จะถูกขายต่อเนื่อง
สำหรับประเทศไทย ตลาดหุ้นตั้งแต่ต้นปีมีการขายออกมาไปแล้วกว่า 2.7 แสนล้านบาท และหากนับเพียงในเดือนต.ค. มีการขายออกไปแล้วกว่า 6.1 หมื่นล้านบาท ถือว่าสูงที่สุดในการขาย 13 เดือน ติดต่อกัน ขณะเดียวกันตัวเลขชี้นำเศรษฐกิจของไทยมีการชะลอตัวให้เห็นบ้างแล้ว ทั้งตัวเลขส่งออกและตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ลดลง รวมทั้งตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคชะลอตัวลง ส่งผลต่อความมั่นใจของนักลงทุน อย่างไรก็ตามสัปดาห์นี้ ต้องติดตามดูมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่จะประกาศออกมา ทั้งการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่ารวมไปถึงการลดภาษีการซื้อสินค้าและบริการ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ของภาครัฐฯ แต่ก็คาดว่าคงเป็นเพียงการพยุงตลาดไม่ให้ลงแรงเท่านั้น
ดังนั้นโดยภาพรวมของการลงทุนในสัปดาห์นี้ ทิศทางตลาดยังไม่นิ่งและมีโอกาสอ่อนตัวลงได้อีก จึงยังแนะนำให้ "ชะลอการลงทุน" โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่หรือหุ้นที่นักลงทุนต่างประเทศถือไว้อาจถูกขายออกมา แม้ว่าบริษัทนั้นจะมีพื้นฐานที่ดีก็ตาม อย่างไรก็ตามการที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมามาก KTBST มองว่าหุ้นบางตัวเป็นจังหวะเข้าซื้อได้ ซึ่งหุ้นที่ KTBST มองว่าเป็นจังหวะซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในสัปดาห์นี้ ได้แก่ MTC , KKP, BCH , CPN , TKN และหุ้นที่ให้ผลตอบแทนด้านเงินปันผลสูง คือ QH โดย KTBST ประเมินกรอบดัชนีสัปดาห์นี้ที่ 1,584-1,650 จุด และมองแนวรับสำคัญที่ 1,620 จุด , 1,600 จุด , และ 1,584 จุด