(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์-อิงลง หลังตลาดสหรัฐฯร่วงแรงกลับมากังวลสงครามการค้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 30, 2018 09:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway Down เนื่องจากตลาดสหรัฐฯเมื่อวานนี้ร่วงลงกว่า 200 จุด จากความกังวลสงครามการค้ากลับมาอีกครั้งหลังจากที่มีรายงานข่าวว่าหากการเจรจาระหว่างผู้นำจีนและสหรัฐฯ ที่จะพบปะกันนอกรอบการประชุม G20 ในเดือนหน้าไม่ประสบความสำเร็จ สหรัฐฯก็อาจจะตั้งกำแพงภาษีอีก 2.57 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯในเดือนธันวาคมนี้ อย่างไรก็ดีมองว่าประเด็นนี้ก็ไม่น่าจะทำให้ตลาด Panic ได้ เพราะเป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นแล้วและการจะเก็บภาษีต่อไปก็คงจะมีวงเงินที่ลดลง

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย ส่วนตลาดบ้านเราจะเห็นได้ว่านักลงทุนต่างชาติได้ขายสุทธิลดลง และเช้านี้เงินบาทก็แข็งค่าเล็กน้อย แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ ส่วนราคาน้ำมันก็ลงไปบ้าง พร้อมให้ติดตามการเลือกตั้งในสหรัฐฯในวันที่ 6 พ.ย.นี้

ทั้งนี้ ให้แนวรับ 1,630 จุด ส่วนแนวต้าน 1,645 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (29 ต.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,442.92 จุด ร่วงลง 245.39 จุด (-0.99%) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,050.29 จุด ลดลง 116.92 จุด (-1.63%) และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,641.25 จุด ลดลง 17.44 จุด (-0.66%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 100.28 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.53 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 46.92 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 7.51 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 10.10 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 12.03 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 4.45 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 15.28 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (29 ต.ค.61) 1,636.88 จุด เพิ่มขึ้น 7.92 จุด (+0.49%)
  • นักลงทุนต่างชาติต่างชาติขายสุทธิ 1,322.16 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 ต.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (29 ต.ค.61) ปิดที่ 67.04 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 55 เซนต์ หรือ 0.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (29 ต.ค.61) ที่ 4.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.29/31 แนวโน้มยังอ่อนค่าต่อเนื่อง มองกรอบวันนี้ 33.20-33.50
  • คลังไม่ขยายเวลาอายุมาตรการลดหย่อนภาษีการซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนหุ้นระยะยาว หรือ LTF
  • สศค.ประกาศคงตัวเลขคาดการณ์อัตราการเจริญเติบโตเศรษฐกิจไทยตลอดปี 61 ไว้ที่ 4.5% เผย ส่วนหนึ่งยังเป็นผลมาจากโดยรวมในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เศรษฐกิจไทยยังสามารถขยายตัวได้ถึง 4.8% พร้อมปรับลดตัวเลขคาดการณ์ล่าสุดเดือน ต.ค. โดยระบุอัตราการขยายตัวของการบริโภคในภาคเอกชนล่าสุดสำหรับปี 61 จะอยู่ที่ 4.2%
  • พาณิชย์ เผย USMCA กระทบส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์สิ่งทอ หลังกำหนดให้เพิ่มสัดส่วนการใช้วัตถุดิบสมาชิก 3 ประเทศมากขึ้น ทำลดนำเข้าจากทั่วโลก ลุยดันเอกชนปักหมุดเปิดเอาต์เล็ตในบาห์เรน
  • ธนาคารกสิกรไทย เผยเศรษฐกิจไทยในปี 2562 มีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องแม้ว่าแรงส่งของอุปสงค์จากต่างประเทศจะลดลง แต่คาดว่าการใช้จ่ายในประเทศจากการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนจะเข้ามามีบทบาทต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจมากขึ้น โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2562 จีดีพีจะขยายตัวที่ 4.3% ผ่อนแรงลงจากปี 2561 ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ที่ 4.6% เนื่องจากการชะลอตัวของภาคการส่งออกและท่องเที่ยวจากปัจจัยฐานที่สูง ตลอดจนประเด็นเรื่องข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนที่อาจจะส่งผลให้การค้าโดยรวมของโลกชะลอตัว

*หุ้นเด่นวันนี้

  • PR9 (บมจ. โรงพยาบาลพระรามเก้า) เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในกลุ่มบริการ หมวดธุรกิจการแพทย์ โดยเสนอขาย IPO ที่ 11.6 บาท/หุ้น โดยบริษัทฯดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน โดยมีจำนวนเตียงจดทะเบียน 166 เตียง ให้บริการทางการแพทย์ครบวงจรด้วยคุณภาพระดับสากล โดยได้รับการรับรองมาตรฐานทั้งสถานพยาบาลและการดูแลผู้ป่วยเฉพาะโรคจากองค์กร Joint Commission International (JCI) ได้แก่ สถาบันโรคไตและเปลี่ยนไตพระรามเก้า และศูนย์เบาหวานและเมตาบอลิก
  • IRPC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 9 บาท กำไร Q3/61 อาจชะลอเพราะปิดซ่อมโรงกลั่น แต่จะไปเร่งใน Q4/61 ต่อเนื่องถึง Q1/62 จาก GRM เพิ่มขึ้นตามการ COD โครงการ UHV ส่วนเพิ่ม คาดกำไรปกติทั้งปี 1.3 หมื่นลบ. +22% Y-Y ด้าน PBV ลดลงเหลือ 1.3 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 1.6 เท่า และแรงขายของ NVDR น่าจะเริ่มเบาลง หลังขายจนยอดถือครองลงมาแตะค่าเฉลี่ย 3 ปีที่ 1,750 ล้านหุ้น (เป็นจุดที่ไม่เคยลงไปต่ำกว่า และเมือแตะแล้ว NVDR มักซื้อคืน) และมีโอกาสถูก Cover Short เพราะมียอด Short Sales ในช่วงตลาดขาลงเดือน ต.ค. 18 หนาแน่นเป็นอันดับ 3 ที่ 61.7445 ล้านหุ้น ต้นทุนเฉลี่ย 6.48 บาท
  • KBANK (แอพเพิล เวลธ์) "ทยอยซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว"เป้า 230 บาท ปรับประมาณการณ์กำไรสุทธิปี 62 ลง 3% จากเดิม 4.21 หมื่นลบ.สู่ระดับ 4.07 หมื่นลบ. +8.5%YoY เพื่อสะท้อนเป้า Non-NII ที่ต่ำกว่าที่เคยคาดไว้ และคาดปันผล H2/61 ที่ 4.00 บาท คิดเป็น dividend yield 2%
  • AMATA (กรุงศรี) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า Consensus 28.7 บาท ได้ Sentiment บวกภาครัฐเตรียมนำโครงการใน EEC เข้าที่ประชุม ครม.เพื่ออนุมัติในวันนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ