นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีเอ็มโอ (CMO) กล่าวว่า บริษัทคาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/61 จะมีการเติบโตที่โดดเด่นที่สุด เนื่องจากเป็นไตรมาสที่มีการจัดงานอีเว้นท์เป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่เป็นงานอีเว้นท์ขนาดใหญ่ของภาคเอกชน ทั้งงานกิจกรรมแคมเปญส่งเสริมการตลาด การจัดแสดงโชว์ และคอนเสิร์ตจากศิลปินชาวไทยและต่างชาติ โดยในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้จากมูลค่างานในมือ (Backlog) ราว 470 ล้านบาทเข้ามา จาก Backlog ทั้งหมดที่มีในปัจจุบันกว่า 700 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยหนุนให้รายได้ทั้งปี 61 เป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทตั้งเป้าไว้ที่ 1.4 พันล้านบาท
สำหรับภาพรวมของอุตสาหกรรมการจัดงานอีเว้นท์และการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เริ่มมีความคึกคักมากขึ้น เพราะผู้ประกอบการภาคเอกชนต่างมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น จากเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต่างออกแคมเปญและเริ่มจัดกิจกรรมเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยบริษัทตั้งเป้ารักษาความเป็นผู้นำด้านธุรกิจอีเวนท์ เอเจนซี อันดับ 1 ของประเทศ และคาดหวังที่จะได้รับงานเฉลี่ยในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 8-10% จากเม็ดเงินของทั้งอุตสาหกรรม ซึ่งภาพรวมอุตสาหกรรมธุรกิจอีเวนท์ในปี 61 มองว่าทั้งปีจะมีเม็ดเงินเฉลี่ยที่ราว 1.4 หมื่นล้านบาท และบริษัทจะได้รับงานอยู่ที่ราว 8% ของมูลค่ารวมของงานที่ออกมาในตลาด
ทั้งนี้ การเติบโตของบริษัทในปีนี้มาจากการจัดงานธุรกิจอีเวนท์ทุกรูปแบบที่อยู่ใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่บริษัทได้รับงานมาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มการเงิน กลุ่มเทคโนโลยีการสื่อสาร และธุรกิจบริษัทไทยที่ขยายงานไปสู่ต่างประเทศ เป็นต้น ซึ่งบริษัทยังเดินงานรับงานอีเวนท์ใหญ่ ๆ เพิ่มอีกจำนวนมาก ทั้งการจัดงานแคมเปญการตลาด งานแสดงโชว์และคอนเสิร์ต เป็นต้น เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
ขณะเดียวกัน บริษัทยังมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว (Tourist Attraction) เพื่อสร้างรายได้ประจำให้เกิดการเติบโตที่ยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้ดำเนินธุรกิจในรูปแบบนี้ 2 ธุรกิจ ด้วยกัน ได้แก่ "หิมพานต์ อวตาร" การแสดงวัฒนธรรมไทยร่วมสมัย ผสานเทคโนโลยีทันสมัย ในรูปแบบ 4 มิติ และธุรกิจสวนสนุก "อิเมจิเนีย เพลย์แลนด์" (Imaginia Playland) โดยบริษัทตั้งเป้าจะขยายแฟรนไชส์สวนสนุก เพิ่มประเทศละ 1 สาขา ใน 5 ปี ซึ่งปัจจุบันมีแฟรนไชส์สวนสนุกแล้วที่ประเทศจีน และเตรียมเปิดอีกสาขาที่ประเทศเวียดนาม
นอกจากนี้ ในส่วนของตลาดต่างประเทศบริษัทจะเข้าไปขยายงาน เพื่อให้มีบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งจะรุกตลาดไปพร้อมกับผู้ประกอบการของไทยที่มีแผนจะขยายงานในต่างประเทศ ทั้งนี้ บริษัทมีความพร้อมที่จะขยายการรับงานเพื่อเสริมการเติบโตของธุรกิจและทำให้รายได้ของบริษัทใน 3 ปีข้างหน้า หรือภายในปี 64 ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 2 พันล้านบาท