ผู้จัดการกองทุนมองตลาดหุ้นปี 51 ผันผวนหนัก การเมืองไม่นิ่ง-ตปท.ยังถ่วง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 8, 2008 15:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ผู้จัดการบริษัทจัดการลงทุน มองตลาดหุ้นไทยหลังการเลือกตั้งในปี 51 จะผันผวนมากกว่าปีก่อน เนื่องจากการเมืองยังไม่นิ่ง และปัจจัยต่างประเทศยังมีความน่าเป็นห่วงมากขึ้น แต่มองแง่ดีว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่จะผลักดันการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย แม้มีปัจจัยต่างประเทศเป็นตัวถ่วงอยู่ โดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ 
นายกำพล อัศวกุลชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสานงานธุรกิจกองทุนรวม บลจ.ไทยพาณิชย์ คาดว่า มีหลายปัจจัยทั้งด้านบวกและลบกดดันตลาดหุ้นไทยในปีนี้ แต่เชื่อว่าดัขนี SET มีโอกาสแตะ 1,000 จุดได้ โดยคาดว่าสิ้นปีนี้ ดัชนี SET จะอยู่ที่ราว 960 จุด บวก/ลบ 20 จุด
สำหรับปัจจัยสำคัญในขณะนี้ คือ รอการจัดตั้งรัฐบาล และผู้ที่จะได้รับแต่งตั้งให้เป็น รมว.คลัง รวมทั้งผู้ที่จะเข้ามาดูแลงานด้านเศรษฐกิจในสาขาต่าง ๆ หากมีการจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้วก็เชื่อว่ารัฐบาลใหม่จะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเร็ว รวมทั้งโครงการเมกะโปรเจ็คท์จะเดินหน้าต่อ ทำให้มีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในไทย เป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทาง
"ปีนี้ความผันผวนแกว่งตัวแรง เพราะฉะนั้นการเข้าออกต้องระวัง แต่ปีนี้โดยรวมตลาดดีกว่าปีก่อน เพราะเรามีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง แต่ตลาดจะผันผวนมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับการบริหาร" นายกำพล กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยจากนอกต่างประเทศก็ยังมีผลต่อตลาดหุ้นไทย ได้แก่ ภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ราคานำมันดิบโลกปรับตัวสูงขึ้น ค่าเงิน การปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมถึงปัญหาซับไพร์ม ซึ่งมองว่าเป็นผลทางจิตวิทยา
ด้านนางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บลจ.บัวหลวง เห็นว่า ขณะนี้ปัจจัยภายในประเทศไม่แน่นอน โดยเฉพาะเรื่องการเมือง และหากมีรัฐบาลแต่ขาดเสถียรภาพ ก็ส่งผลต่อการดำเนินนโยบายการบริหารประเทศ ขณะเดียวกัน ปัจจัยจากต่างประทศ โดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจสหรัฐยังคงชะลอตัว จึงคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)อาจจะปรับลดดอกเบี้ยถึง 0.50% ในการประชุมครั้งต่อไป
ฉะนั้น มองว่าปีนี้ตลาดหุ้นไทยจะผันผวนมาก จากความไม่แน่นอนทั้งจากในและต่างประเทศ แต่ก็เป็นโอกาสลงทุนในหุ้น ซึ่งแนะนำให้ถือระยะยาว
"ปีนี้มองไม่ออก ไม่รู้ว่าหน้าตารัฐบาลใหม่เป็นยังไง ทีมเศรษฐกิจเป็นยังไง และจะแยกออกจากฝ่ายการเมืองหรือเปล่า"นางวรวรรณ กล่าว
นายศุภกร สุนทรกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์ บลจ.เอ็มเอฟซี มองว่า ตลาดหุ้นขณะนี้ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลักคือ ต่างประเทศที่ยังกังวลภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัว และในประทศที่ยังรอการจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ ถ้าออกมาดีภาพการลงทุนก็จะดีตาม
"ถ้าตัดปัจจัยภายนอกประเทศ ตลาดหุ้นเราก็ไม่ควรลงเท่าไร ถ้ามีรัฐมนตรีคลัง มีทีมเศรษฐกิจน่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจภายในได้ ก็เป็นปัจจัยบวก"นายศุภกร กล่าว
ทั้งนี้ คาดวว่าดัชนีหุ้นไทยน่าจะกลับมา 850 จุด และแนวทดสอบที่ 870 จุด และมีโอกาสแตะ 900 จุดได้
นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ รองประธานกรรมการบริหาร บลจ.กสิกรไทย มองว่าตลาดหุ้นไทยปีนี้จะผันผวนมาก ทั้งจากปัจจัยในประเทศที่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล
และปัจจัยภายนอกที่มีทั้งปัจจัยบวกและลบที่มีผลตลาดหุ้นทั่วโลกก็ผันผวนเช่นกัน โดยในปีนี้จะมีประมาณ 20 ประเทศที่จัดการเลือกตั้งใหม่ ปัญหาเงินเฟ้อทั่วโลกจากราคาน้ำมันที่ถีบตัวสูงขึ้น และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดก็จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนลดลง จากปีก่อนได้ผลตอบแทน 4% สวนตลาดหุ้นไทยยังให้ผลตอบแทน 12-15%
"ตลาดหุ้นปีนี้ผันผวน ทั้งการลงทุนในตลาดหุ้น และ ตลาดตราสารหนี้ แนวโน้มยังมองไม่ออกว่าจะเป็นยังไง" นางวิวรรณกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ