"เน็กซ์วิว"มองต่างชาติยังเมินลงทุนตลาดหุ้นไทยระยะสั้น รอการเมืองนิ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 8, 2008 15:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บริษัท เน็กซ์วิว (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการข้อมูลข่าวสารทางการเงิน และการลงทุนในอาเซียน มองนักลงทุนต่างประเทศยังเมินตลาดหุ้นไทย หลังประเมินว่าตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นเป็นขาลง ทั้งจากปัจจัยลบทั้งในประเทศที่การจัดตั้งรัฐบาลยังไม่มีความชัดเจน และปัจจัยจากต่างประเทศ ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น และภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ 
มองแนวรับที่สำคัญระดับ 760 จุดในช่วง 2-3 เดือนนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดจากเดือนก.ย. 50 แต่อาจจะลงเร็วกว่าที่คาด และแนวต้านที่ 885 จุด และโอกาสจะเห็นดัชนีหุ้นไทยจะแตะ 1,000 จุด ภายในช่วง 6 เดือนของปี 51 คงยาก เพราะมีปัจจัยลบกดดันอยู่
"ในช่วง 2-3 เดือน ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสลงมากกว่านี้ และยังไม่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างประเทศเท่าไร" นายธิติ ธาราสุข ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ จาก เน็กซ์วิว กล่าว
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติต้องการเห็นสถานการณ์การเมืองที่นิ่ง และรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ รวมทั้ง Roadmap เกี่ยวกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ
"ตอนนี้ตลาดหุ้นไทยหลังการเลือกตั้ง ยังไม่ค่อยดี และยังมีปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐ ช่วงนี้นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยออกไป อาจโยกไปที่อื่นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า" นายธิติ กล่าว
นายธิติ กล่าวว่า ช่วงนี้ตลาดหุ้นเวียดนาม ดูจะเป็นที่น่าลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ จากภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูง แต่ก็ยังติดปัญหาเรื่องการจำกัดเงินลงทุน ขณะที่ตลาดหุ้นไทยนั้น นักลงทุนมองในระดับกลาง หรือ ให้เกรด 2.5 จากเกรด 4 ที่เป็นระดับสูงสุด ประกอบกับ ยังขาดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เช่น Index options ซึ่งควรผลักดันให้มีการเน้นความรู้กับผู้ลงทุน ซึ่งปัจจุบันมีอยู่กว่า 4 แสนราย โดยเป็นนักลงทุนที่มีการซื้อขายสม่ำเสมอประมาณครึ่งหนึ่ง
นอกจากนี้ จากข้อมูล Bloomberg ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยมี P/E Ratio ที่ 19.9 เท่า ณ สิ้นปี 50 สูงสุด ในเอเชีย (ยกเว้นจีน,ญี่ปุ่น) ส่วนสิงคโปร์มี P/E Ratio ต่ำสุดที่ 12.8 เท่า ทั้งนี้ P/E Ratio โดยเฉลี่ยในตลาดเอเชีย อยู่ที่ 16 เท่า
เน็กซ์วิว คาดว่าจีดีพีไทยในปี 51 จะเติบโต 4.5-6.0% โดยคาดว่าภาคการส่งออกจะเติบโตลดลง อยู่ที่ 10-12% แต่จะไม่กระทบกับจีดีพี เพราะมีการใช้จ่ายภาครัฐ ในโครงการขนาดใหญ่ ที่ยังช่วยดันจีดีพีโต แต่การใช้จ่ายในภาคครัวเรือนจะไม่สูง และหากเงินเฟ้อในปีนี้สูงถึง 3% ก็จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ จากการลดการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน ประกอบกับค่าเงินบาทแข็งค่าฉุดภาคการท่องเที่ยวของไทย
..

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ