AOTคาดเปิดประมูลดิวตี้ฟรี สุวรรณภูมิ ธ.ค.61-ม.ค.62 ลุ้นอัยการให้คำตอบกรณีข้อพิพาทงานออกแบบ Terminal 2 เสนอบอร์ด 21 พ.ย.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 5, 2018 12:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างรอความเห็นจากสำนักอัยการสูงสุด หลังบริษัทขอหารือแนวทางดำเนินการในระหว่างที่มีข้อพิพาททางคดีงานออกแบบอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ได้ส่งเรื่องไปเมื่อต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา หากได้รับคำตอบจะนำเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 21 พ.ย.นี้ ก็คาดจะสามารถลงนามสัญญากับผู้ได้รับคัดเลือก คือกลุ่มนิติบุคคลร่วมทำงาน ดีบีเอแอลพี-นิเคนเซกเก หรือ กลุ่มดวงฤทธิ์ บุนนาค ภายในเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งจะยืนราคาได้ถึงธ.ค.นี้เท่านั้น

จากนั้นจะให้ที่ปรึกษานำไปประกอบการผลศึกษาแนวทางการประมูลสิทธิบริหารจัดการพื้นที่ปลอดภาษีอากร (ดิวตี้ฟรี) ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งคาดว่าจะประกาศเชิญชวนประกวดราคาได้ในธ.ค. 61- ม.ค.62 ขณะเดียวกันจะมีการเปิดประมูลดิวตี้ฟรี ในท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ที่จะสิ้นสุดสัญญาในปี 63 เช่นเกียวกับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขณะนี้ยังไม่ได้เลือกว่าจะประมูลแบบไหน เพราะต้องพิจารณาว่าจะให้ประมูลตามหมวดสินค้า หรือ ตามพื้นที่

"รออัยการตอบกลับมา อย่างไรเราก็จะเดินหน้า หากได้คำตอบในเดือนนี้จะเสนอบอร์ดในวันที่ 21 พ.ย.นี้ เพื่อให้บอร์ดรับทราบ และให้ที่ปรึกษาเสนอร่างทีโออาร์ ประมูลดิวตี้ฟรี ซึ่งคิดว่าทีโออาร์ไม่ช้า เพราะทำไว้บางส่วนแล้ว"นายนิตินัย กล่าว

นายนิตินัย ยังชี้แจงว่า การนำโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 ก่อนการขยายส่วนต่อขยายทั้งด้านตะวันออก (East Wing)และด้านตะวันตก(West Wing)ของอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 โดยสามารรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มอีก 30 ล้านคน/ปี เท่ากัน เพราะการสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 จะช่วยเพิ่มพื้นที่ Land side ให้มีเคาท์เตอร์เช็คอินและพื้นที่โล่ง โดยส่วนนี้จะสร้างส่วนต่อขยาย West Wing พร้อมกัน แต่หากไปก่อสร้างส่วนต่อขยายทั้ง West Wing และ East Wing พร้อมกันจะไม่มีพื้นที่ Land Side

โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 มีมูลค่าโครงการ 4.2 หมื่นล้านบาท ส่วน East Wing และ West Wing ของอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 มีมูลค่าโครงการราว 4 พันล้านบาท ซึ่งเดิมอยู่ในส่วนโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 ที่มีมูลค่าโครงการ 6.6 หมื่นล้านบาท ที่รวมงานก่อสร้างส่วนต่อขยาย East Wing และ West Wing แต่ปัจจุบันได้ตัดงานนี้ออกไปก่อนก็ทำให้มูลค่างานลดลงเหลือ 6.2 หมื่นล้านบาท

ขณะที่งานก่อสร้างรันเวย์ เส้นที่ 3 มูลค่าโครงการ 2.2 หมื่นล้านบาท (รวมค่าชดเชยผลกระทบด้านเสียง) ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายงานผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (EHIA) ใกล้จะเสร็จสิ้นโดยล่าสุดได้ตอบข้อซักถามของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) คาดว่าจะเปิดประมูลได้ในไตรมาส 3/62 โดยทอท.ออกแบบก่อสร้างเอง ขณะที่งานก่อสร้างรันเวย์ เส้นที่ 4 ก็ดำเนินการต่อเนื่อง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายงานผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ซึ่งโครงการนี้จะร่วมกับงานก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 2 (Satellite 2) ที่กำหนดเป็นโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 4

นายนิตินัย คาดว่า ทอท.ได้ดำเนินการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตามแผนแม่บท เพียงแต่นำโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 มาเร่งก่อสร้างเพราะปัจจุบันจำนวนผู้โดยสารเติบโตมากกว่าศักยภาพของท่าอากาศยานสุวรรณภุมิที่รองรับได้ 45 ล้านคน/ปีในปัจจุบัน ขณะที่ภาวะปัจจุบันมีผู้โดยสารเติบโตและขยายมาที่ 60 ล้านคน/ปี ดังนั้น หากดำเนินงานก่อสร้างดังกล่ว ในปี 63 ทอท.สามารถเปิดให้บริการอาคาร Satellite 1 ,งานก่อสร้างงรันเวย์ เส้นที่ 3 สร้างแล้วเสร็จ ในปี 64 และ อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 สร้างแล้วเสร็จ ในปี 65


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ