ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดปรับตัวลดลงในวันนี้ (8 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนต่างเทขายทำกำไรหลังจากที่หุ้นได้พุ่งขึ้นในช่วงการซื้อขายเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจของสหรัฐอย่างต่อเนื่อง
"ตลาดยังขาดปัจจัยและสัญญาณบ่งชี้ที่ชัดเจน ส่งผลให้นักลงทุนซื้อขายหุ้นอย่างระมัดระวัง" คาร์เมน ลี หัวหน้านักวิจัยจากโอซีบีซี ซิเคียวริตี้ส์กล่าว
ตลาดยังคงไร้ทิศทางและคาดว่าการซื้อขายจะยังคงเบาบางต่อไปจนถึงการประชุมนโยบายธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นช่วงสิ้นเดือนนี้
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ปิดลดลง 14.79 จุด หรือ 0.4% ปิดที่ 3,338.27 จุด หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบ 3,335.97 และ 3,372.42 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขาย 1.9 พันล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 1.9 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
หุ้นแคปิตอลแลนด์ ซึ่งบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นแกนนำให้หุ้นกลุ่มบลูชิปปรับตัวลดลง หลังจากที่บริษัทได้ยื่นข้อเสนอซื้อหุ้นที่เหลืออยู่ 66.53% ในบริษัทแอสค็อทท์ กรุ๊ป ลิมิเต็ด ผู้ประกอบธุรกิจอพาร์ทเมนท์ เป็นมูลค่า 1.73 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อหุ้น ซึ่งนักวิเคราะห์บางคนคิดว่ามีราคาสูงเกินไป
"เรามีมุมมองที่เป็นลบเกี่ยวกับการครอบครองกิจการในครั้งนี้ เพราะการประเมินราคาสูงเกินไป" วินสตัน หลิว นักวิเคราะห์จากโอซีบีซี ซิเคียวริตี้ส์กล่าว
หุ้นแคปิตอล แลนด์ ปิดลดลง 33 เซนต์ ขณะที่หุ้นแอสค็อทท์ พุ่งขึ้น 50 เซนต์
ส่วนหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์อื่นๆยังคงอ่อนตัว โดยหุ้นซิตี้ ดีเวล็อปเมนท์ ร่วงลง 36 เซนต์ หุ้นวิง ไต๋ ลดลง 7 เซนต์ และหุ้นเค็พเพล แลนด์ ลดลง 15 เซนต์
หุ้นกลุ่มธนาคารก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ฉุดให้ตลาดหุ้นปิดลดลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ธนาคารพาณิชย์ต่างๆจะตัดบัญชีหนี้สูญเพิ่มขึ้น อันเป็นผลมาจากการขาดทุนในตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกหนี้ที่ขาดความน่าเชื่อถือ (ซับไพรม์) โดยหุ้นโอซีบีซี ลดลง 10 เซนต์ และหุ้นธนาคารยูโอบี ร่วงลง 24 เซนต์
ขณะที่หุ้นกลุ่มบลูชิปอื่นๆปรับตัวลดลง โดยหุ้นคอสโก้ คอร์ป สิงคโปร์ ลดลง 15 เซนต์ และหุ้นสิงคโปร์ เอ็กซ์เชนจ์ ลดลง 20 เซนต์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--