TRC ลุ้นประมูลทางหลวงฉะเชิงเทรา มูลค่า 560 ลบ.เดือนนี้ พร้อมลุยชิงงานใหม่กว่า 1 หมื่นลบ.ใน Q4/61

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 7, 2018 15:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภาสิต ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น (TRC) เปิดเผยว่า บริษัท สหการวิศวกร จำกัด (SKW) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ยังคงเดินหน้ารับงานก่อสร้างใหม่ต่อเนื่อง โดยงานที่คาดว่าจะรู้ผลอย่างเป็นทางการภายในเดือนนี้ และมีโอกาสที่จะได้รับงานค่อนข้างสูง ได้แก่ โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 3304 สายแยกทางหลวงหมายเลข 315 (ดอนสีนนท์) – บรรจบทางหลวงหมายเลข 331 (แปลงยาว) อยู่ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา มูลค่างานประมาณ 560 ล้านบาท

ขณะที่ภาพรวมของการประมูลในช่วงไตรมาส 4/61 บริษัทเตรียมตัวจะเข้าประมูลงานใหม่รวมมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ได้แก่ งานโครงการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติ 3 โครงการ มูลค่างาน 45 ล้านบาท , โครงการนำสายไฟลงใต้ดิน 3 โครงการ ,โครงการจ้างก่อสร้างอาคาร มูลค่างาน 800 ล้านบาท และโครงการโรงงานผลิตยารังสิต ระยะที่สอง มูลค่างาน 5,000 ล้านบาท

สำหรับในช่วงเดือน ก.ค.-ต.ค.ปีนี้ ทางกลุ่ม TRC ได้งานใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มูลค่ารวมกว่า 1,500 ล้านบาท ได้แก่ โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแยก ณ ระนอง จังหวัดกรุงเทพฯ มูลค่างาน 1,257 ล้านบาท ,โครงการก่อสร้างปรับปรุงถนนสามวา จังหวัดกรุงเทพฯ มูลค่างาน 172 ล้านบาท ,โครงการสร้างเสาเข็มและโครงสร้าง FN จังหวัดระยอง มูลค่างาน 35 ล้านบาท , โครงการยกระดับความปลอดภัยบริเวณทางแยกขนาดใหญ่ ตอนลำแก่น-ทับละมุ จังหวัดภูเก็ต มูลค่างาน 18 ล้านบาท และโครงการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติไปยังสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ ปตท. พี.เอ็น.ปิโตรเลียม จังหวัดนครราชสีมา มูลค่างาน 15 ล้านบาท

ล่าสุด SKW รุกธุรกิจรับงานก่อสร้างคลังสินค้าและระบบจัดเก็บและเบิกจ่ายสินค้าแบบอัตโนมัติ หรือ Automated Storage Retrieval System (AS/RS) ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตร บริษัท ออโต้ โมชั่น เวิร์ค จำกัด ประเดิมงานแรกงานโครงการจ้างเหมาออกแบบและก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าผลิตภัณฑ์หล่อลื่นจาก บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (PTTOR) มูลค่างาน 600 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ระยะเวลาโครงการ 450 วัน โดยได้ร่วมลงนามในสัญญารับเหมาก่อสร้างกับ PTTOR ไปเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 ที่จะประกาศวันที่ 12 พ.ย.นี้ คาดว่าจะสดใสจากการรับรู้รายได้จากงานในมือมากขึ้น และในภาพรวม ผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก

นอกจากนั้น บริษัทมีการทบทวนวิสัยทัศน์และปรับปรุงแผนกลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศไทยในโมเดล ไทยแลนด์ 4.0 ภายใต้ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน โดยภายในเดือนนี้คณะกรรมการบริษัทจะมีการพิจารณาอนุมัติแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปี (ปี 62-64) โดยบริษัทจะรุกธุรกิจประเภทบริการโซลูชั่นที่มีนวัตกรรมเพื่อให้มีความหลากหลายรองรับอุตสาหกรรมมากขึ้นจากเดิมที่เน้นก่อสร้างในอุตสาหกรรม Oil & Gas เพียงอย่างเดียว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ