นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมในปี 62 เติบโต 20 มาที่ระดับ 9,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากธุรกิจถ่านหิน 90% และรายได้จากธุกิจให้บริการ 10% คาดว่าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจถ่านหินในประเทศจะอยู่ที่ 75% และ รายได้จากการขายถ่านหินในต่างประเทศในอยู่ที่ 15%
สำหรับธุรกิจให้บริการ ด้านโลจิสติกส์ ขนส่งทางน้ำและทางบก รวมทั้งการให้บริการท่าเรือ และคลังสินค้านั้น บริษัทวางแผนขยายพื้นที่คลังสินค้า เพื่อเพิ่มพื้นที่กองเก็บถ่านหิน และพื้นที่ให้บริการ รวมทั้งมีการต่อเรือลำเลียงเพิ่มเติมจำนวน 12 ลำ คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 1/62 ทำให้บริษัทจะมีกองเรือลำเลียงทั้งหมด 24 ลำ ซึ่งสามารถรองรับความต้องการใช้บริการขนส่งทางน้ำ ของบรรดากลุ่มผู้ประกอบการในหลายอุตสาหกรรม ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ส่วนภาพรวมธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ยังคงมั่นใจว่าในปีนี้ บริษัทจะมีอัตราการเติบโตของรายได้รวมเพิ่มขึ้น 20-25% จากปี 60 ที่มีรายได้รวม 5,949 ล้านบาท และยอดขายถ่านหินที่ระดับ 3 ล้านตัน ขณะที่ธุรกิจการให้บริการโลจิสติกส์ และคลังสินค้า บริษัทตั้งเป้ามีสัดส่วนรายได้ร้อยละ 5 จากรายได้รวม เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มีสัดส่วนรายได้ 2.5% ของรายได้รวม
นายพนม กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/61 บริษัทมีรายได้รวม 2,236 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาจากธุรกิจขายถ่านหิน 2,092 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจให้บริการ 144 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 13 ล้านบาท ลดลง 73% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกปี 61 ของบริษัทมีรายได้รวม 5,876 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 92 ล้านบาท ลดลง 1.6%
สาเหตุที่บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น เป็นผลจากการขยายตลาด และมีการวางกลยุทธ์การขาย ทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นจากปริมาณการขายในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ อยู่ที่ 2.64 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 34% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีปริมาณการขายอยู่ที่ 1.97 ล้านตัน ขณะเดียวกันบริษัทยังมีรายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ด้านการขนส่งที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตามจำนวนกองเรือลำเลียง 12 ลำ โดยรายได้จากธุรกิจบริการ ช่วง 9 เดือนอยู่ที่ 317 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 219% จากงวดปีที่ผ่านมา
"ผลการดำเนินงานใน 9 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น จากการขยายตลาดในประเทศ และต่างประเทศ และรายได้จากธุรกิจโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้น จากการขยายกองเรือลำเลียง รวมทั้งขยายพื้นที่กองเก็บคลังสินค้าเพิ่ม โดยบริษัทมองว่ารายได้ในส่วนนี้จะทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงในปีหน้า"นายพนม กล่าว