(แก้ไข) GOLD ตั้งเป้าปี 62 รายได้โต 30% ยอดขายราว 3.4 หมื่นลบ.วางแผนเปิด 28 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 3.3 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 8, 2018 16:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายแสนผิน สุขี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (GOLD) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 62 ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30% จากปี 61 ที่มีรายได้ 1.46 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมีสัดส่วนรายได้จากทาวน์โฮม 51% บ้านเดี่ยว 26% นีโอโฮม 18% และโครงการในต่างจังหวัด 5% พร้อมกับตั้งงบลงทุนราว 1.21 หมื่นล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินเพิ่มจำนวน 30 แปลง

ขณะที่บริษัทตั้งเป้ายอดขายธุรกิจที่อยู่อาศัยในปี 62 ที่ 3.4 หมื่นล้านบาท โดยวางแผนเปิดโครงการใหม่จำนวน 28 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3.3 หมื่นล้านบาท โดยจะเป็นโครงการแนวราบทั้งหมด แบ่งเป็น ทาวน์โฮม 13 โครงการ, นีโอโฮม 4 โครงการ, บ้านเดี่ยว 6 โครงการ และโครงการต่างจังหวัดอีก 5 โครงการ

สำหรับการพัฒนาโครงการใหม่ในปีหน้าจะเน้นไปที่การขยายตลาดซิตี้โฮมบ้านทำเลในเมือง เพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภต ในปัจจุบันที่หาที่อยู่อาศัยในเมืองมากขึ้น แต่ยังหาได้ค่อนข้างยาก บริษัทจึงเริ่มหาแนวทางจัดสรรบ้านในเมืองให้เป็นซิตี้โฮมที่แท้จริงไว้รองรับลูกค้ากลุ่มนี้ โดยไม่จำกัดว่าเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด หรือทาวน์โฮม แต่เป็นบ้านที่มีฟังชั่นครบตามสไตล์โกลเด้นแลนด์และอยู่ในเมืองย่านสาทร พระราม 3 ลาดพร้าว และแจ้งวัฒนะ โดยจะขายในราคาช่วง 10-20 ล้านบาท

ส่วนโครงการในต่างจังหวัดยังคงต่อยอดการพัฒนาโครงการเพิ่มขึ้นอีก 5 โครงการในทำเลที่เหมาะสม เช่น ชลบุรี ฉะเชิงเทรา เชียงราย เป็นต้น โดยพิจารณาจากทำเลเป็นย่านอุตสาหกรรมและการค้า เช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ย่านเมืองอุตสาหกรรม และการพัฒนาโครงการร่วมกับพื้นที่ของ Big C

นายแสนผิน เปิดเผยอีกว่า ทิศทางของผลประกอบการในปีนี้ ยอดขายในช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย. 61) ทำได้แล้ว 2.48 หมื่นล้านบาท จากการเปิดขายโครงการใหม่ 15 โครงการ และยังมียอดขายต่อเนื่องจากโครงการเดิม ขณะที่ในช่วงเดือนธ.ค. 61 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3.2 พันล้านบาท คือ โครงการในทำเลลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ มูลค่า 600 ล้านบาท, รามอินทรา-วงแหวน มูลค่า 600 ล้านบาท และ บางนา-กิ่งแก้ว มูลค่า 1.2 พันล้านบาท ซึ่งทั้ง 3 โครงการ เป็นโครงการบ้านแฝด แบรนด์นีโอโฮม ระดับราคาขายตั้งแต่ 4-6 ล้านบาท/ยูนิต

ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ราว 9 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 62 บริษัทคาดหวังยอดโอนในแต่ละไตรมาสดังนี้ ไตรมาส 1/62 คาดยอดโอนจะอยู่ที่กว่า 4.6 พันล้านบาท, ไตรมาส 2/62 อยู่ที่ 4.65 พันล้านบาท, ไตรมาส 3/62 ที่ 4.8 พันล้านบาท และไตรมาส 4/62 ที่ 4.9 พันล้านบาท

นายแสนผิน กล่าวถึงมาตรการควบคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่กำลังจะประกาศใช้ โดยที่จะควบคุมอัตราส่วนการให้สินเชื่อเพื่อซื้อบ้านเทียบกับมูลค่าบ้าน (LTV) ที่ 80% สำหรับบ้านหลังที่ 2 หรือมีมูลค่ามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไปว่า บริษัทมองว่าจะผลดีแก่การดำเนินธุรกิจมากขึ้น เนื่องจากจะช่วยให้การคัดกรองคุณภาพลูกค้าที่มีประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะทำให้อัตราการปฎิเสธสินเชื่อของบริษัทลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากปัจจุบันที่โครงการทาวน์โฮมของบริษัทมีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่ 25-30% แต่บ้านเดี่ยวไม่มีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อ

อีกทั้งมาตรการดังกล่าวช่วยเร่งยอดโอนของลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ก่อนที่มาตราการดังกล่าวจะเริ่มบังคับใช้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ