โบรกเกอร์ ต่างแนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) จากแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/61 ที่มีทิศทางการเติบโตที่ดีและก้าวกระโดด จากการที่มีภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศชื่อดังและได้รับความสนใจจ่อคิวเข้าฉายต่อเนื่อง
พร้อมทั้งเตรียมเปิดบริการโรงภาพยนตร์ใหม่ในไอคอนสยามเดือนธ.ค.นี้ ช่วยหนุนรายได้จากการขายตั๋วและค่าโฆษณา พร้อมกับเริ่มรับรู้รายได้จากลูกค้าที่ต่อสัญญาโฆษณาในโรงภาพยนตร์เข้ามาในช่วงไตรมาส 4/61 หนุนผลงานโตโดเด่น
ราคาหุ้น MAJOR พักเที่ยงอยู่ที่ 22.40 บาท ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 7.30 จุด (-0.43%)
ยูโอบี (ประเทศไทย) ซื้อ 31.75 กรุงศรี ซื้อ 31.00 หยวนต้า ทยอยซื้อ 30.75 ฟิลลิป (ประเทศไทย) ซื้อ 30.75 ฟินันเซีย ไซรีส ซื้อ 29.50 เอเซีย พลัส ซื้อ 29.00
นางภรณี ทองเย็น รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/61 ของ MAJOR จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง เนื่องจากมีภาพยนตร์ใหม่ที่เข้าฉายในไตรมาส 4/61 ดีกว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีผ่าน ๆ มา และในปีก่อนที่เป็นช่วงถวายความอาลัยในเดือน ต.ค.60 ซึ่งผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/61 จะก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งยังมีภาพยนตร์ไทยในช่วงเดือน ต.ค.ที่ทำรายได้ได้ดีทั้ง 2 เรื่อง คือ นาคี 2 และ Homestay
ขณะที่ในช่วง 2 เดือนสุดท้าของปีนี้ยังมีหนังบล็อกบัสเตอร์จากฮอลลีวู้ดเตรียมเข้าฉาย ซึ่งจะช่วยหนุนรายได้ของ MAJOR ให้เพิ่มขึ้นได้อีก เพราะเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับความสนใจมาก อีกทั้งยังมีการเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์ที่ไอคอนสยาม จำนวน 14 โรง ในเดือนธ.ค.นี้ ทำให้จำนวนโรงภาพยนตร์ภาพรวมเพิ่มขึ้นมา และมีรายได้จากการขายตั๋วภาพยนตร์และค่าโฆษณาเพิ่มขึ้น
นักวิเคราะห์ บล.กรุงศรี คาดว่าภาพรวมของผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/61 ของ MAJOR จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุด หลังจากที่ภาพยนตร์ไทยทั้ง 2 เรื่องที่เข้าฉายในเดือนต.ค.ที่ผ่านมาทั้งนาคี 2 และ Homestay สามารถทำรายได้ได้ดีมาก รวมถึงภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดในเดือนต.ค.ที่เข้าฉาย คือ Venom ก็สามารถทำรายได้ได้ดีเช่นเดียวกัน ซึ่งหนุนต่อยอดการขายบัตรชมภาพยนตร์ที่สูงขึ้นทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด
ประกอบกับในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของไตรมาสนี้ จะมีภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดฟอร์มยักษ์จ่อคิวฉายเข้ามา ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้กับผลการดำเนินงานของ MAJOR อย่างมีนัยสำคัญ เพราะ MAJOR ถือเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม และมีจำนวนโรงภาพยนตร์มากที่สุดในประเทศ รวมทั้งยังมีโรงภาพยนตร์ในลาวและกัมพูชา ส่วนรายได้จากค่าโฆษณาในโรงภาพยนตร์ยังคงเข้ามาต่อเนื่อง และในไตรมาส 4/61 จะมีการเปิดโรงภาพยนตร์แห่งใหม่ที่ไอคอนสยาม จะเริ่มรับรู้รายได้จากค่าโฆษณาของของโรงภาพยนตร์ในไอคอนสยามมาหนุนอีก และยังคงประมาณการณ์กำไรปีนี้ของ MAJOR โต 40% จากปีก่อน
น.ส.จิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/61 ของ MAJOR จะเติบโตอย่างโดดเด่น โดยเฉพาะกำไร เพราะเป็นการเติบโตจากฐานที่ต่ำเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในเดือนต.ค.60 เป็นช่วงไว้อาลัย ทำให้ผลการดำเนินชะลอตัวลง แต่ในปีนี้สถานการณ์เป็นปกติ และมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากฮอลลีวู้ดเตรียมเข้าฉายในไตรมาส 4/61 ต่อเนื่อง โดยในช่วง 2 เดือนที่เหลือยังมี Fatastic Beast, Aquaman และ Bubblebee ที่จะเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูง
อีกทั้งในเดือนธ .ค.นี้ MAJOR เตรียมเปิดโรงภาพยนตร์ใหม่ที่ไอคอนสยาม จำนวน 14 โรง ที่จะเข้ามาช่วยเสริมรายได้ของธุรกิจไนเดือนสุดท้าย และในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา มีภาพยนตร์ไทย 2 เรื่อง คือ นาคี 2 และ Homestay สามารถทำรายได้ได้ดี ส่วนในช่วงไตรมาส 4 นี้จะมีการรับรู้รายได้ค่าโฆษณาของลูกค้าที่ทำการต่อสัญญาใหม่เข้ามา ซึ่งช่วยหนุนภาพรวมผลการดำเนินงานของ MAJOR ไนไตรมาสสุดท้ายที่โดดเด่น และยังคาดว่ากำไรของ MAJOR ในปีนี้จะเติบโต 20% จากปีที่แล้ว