นายเสกสรร อาตมางกูร กรรมการผู้จัดการ บมจ.โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) เปิดเผยว่า คาดผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/61 จะดีกว่าช่วงไตรมาส 3/61 จากเป็นช่วงไฮซีซั่น และเปิดโรงงานเมทิลเอสเทอร์ (ไบโอดีเซล) แห่งที่ 2 ในปลายเดือนส.ค. ที่ผ่านมา และเริ่มจำหน่ายจริงในเดือน พ.ย. นี้ โดยภาพรวมทั้งปีบริษัทมั่นใจว่ายอดขายจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 3.6 แสนตัน จาก 3.4 แสนตันในปีก่อน ซึ่งโรงงานดังกล่าวเป็นโรงงานที่มีประสิทธิภาพการผลิตที่ดีทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง ประกอบกับได้รับการยกเว้นในเรื่องภาษีจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) รวมไปถึงมีการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบดีขึ้นก็เชื่อว่าจะผลักดันให้ผลการดำเนินงานในครึ่งหลังปีนี้ดีกว่าครึ่งปีแรก
สำหรับโครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ (Nakhon Sawan Biocomplex :NBC) ระยะแรก จะประกอบด้วย โรงงานหีบอ้อย กำลังการผลิต 2.4 ล้านตันอ้อย/ปี , โรงงานเอทานอล ขนาด 6 แสนลิตร/วัน ,โรงไฟฟ้า ขนาด 85 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติได้ในวันที่ 27 พ.ย. นี้ และคาดว่าจะหาผู้รับเหมา และเริ่มก่อสร้างได้ในต้นปี 62 ซึ่งมูลค่าโครงการต้องมีการพิจารณาอีกครั้งในช่วงการหาผู้รับเหมา โดยราคาอาจจะต่ำกว่าที่ประเมินไว้ และคาดว่าโครงการระยะแรกจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 63 หลังจากนั้นก็จะพิจารณาเพื่อดำเนินโครงการในระยะที่สอง ซึ่งเป็นการต่อยอดในธุรกิจไบโอชีวภาพ
ส่วนความคืบหน้าเรื่องวัตถุดิบคงคลังหาย ปัจจุบันอยู่ระหว่างสอบสวนผู้กระทำความผิด และมีการหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อที่จะต่อสู้คดี ส่วนรายชื่อผู้กระทำผิดนั้นในปัจจุบันยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่อย่างไรก็ตามผู้ร่วมกระทำผิดทางบริษัทได้ตั้งคณะกรรมการวินัยขึ้นมาสอบสวนแล้ว โดยคาดว่าในช่วงปลายปีนี้จะสามารถสรุปภาพรวมคดีดังกล่าวได้ ขณะที่การติดตามสต็อกที่หายไปจะกลับมาได้มากน้อยเพียงใดนั้น ก็ต้องติดต่อไป
"กรณีที่วัตถุดิบคงคลังหาย ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการสอบสวนหาข้อเท็จจริง เนื่องจากผิดกฎหมายทางอาญา และระหว่างนี้คณะกรรมการก็ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและคณะกรรมการลงโทษทางวินัย เพื่อดำเนินคดีดังกล่าวอยู่ ขณะเดียวกันเมื่อบริษัททราบข้อเท็จจริงที่แน่ชัดกับผู้ร่วมกระทำความผิด บริษัทก็ได้ดำเนินคดีไปแล้วในบางส่วน เพื่อเร่งรัดในการติดตามมูลค่าความเสียหายกลับคืนมา และทำให้ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/61 เติบโตได้อย่างโดดเด่น"นายเสกสรร กล่าว