นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วม บมจ.ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (TQM) เปิดเผยว่า หลังจาก TQM ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงและร่างหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อย
ปัจจุบัน TQM มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท โดยเป็นทุนที่ชำระแล้ว 225 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.0 บาท และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 75,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ ซึ่งในจำนวนนี้จะจัดสรรให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือพนักงานบริษัท และ/หรือพนักงานบริษัทย่อย (ESOP) จำนวนไม่เกิน 11,250,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 3.75% ของทุนชำระแล้วภายหลังจำนวนหุ้น IPO ที่เสนอขายทั้งหมด และส่วนที่เหลือจะเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป
นางสาวพันทิตา แซ่เอ็ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวานิชธนกิจ บล.ธนชาต ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วม เปิดเผยว่า บริษัทจะระดมทุนเพื่อนำไปใช้พัฒนาโครงการสำหรับปรับปรุงและพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และโครงการพัฒนากระบวนการทางธุรกิจ โดยลงทุนในระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) รวมถึงการเพิ่มทุนชำระแล้วในบริษัทแกน ได้แก่ บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด (TQM Broker) และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
ทั้งนี้ หากสำนักงาน ก.ล.ต.อนุมัติแบบไฟลิ่งและแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ให้ให้แก่ประชาชนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกเป็นที่เรียบร้อย จะร่วมกันกำหนดวันที่เหมาะในการเสนอขายหุ้น IPO และคาดว่าจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ภายในปีนี้
นายอัญชลิน พรรณนิภา ประธานคณะกรรมการ TQM เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจของ บริษัทฯ แบ่งการให้บริการเป็น 4 ด้าน คือ (1) ธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย ให้บริการผ่าน บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด (TQM Broker) โดยมีการขายผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัยทั้งสิ้นกว่า 130 ผลิตภัณฑ์ ทั้งในกลุ่มประกันรถยนต์ (Motor) ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และกลุ่มประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ และกลุ่มประกัน Non-Motor ในรูปแบบประกันอัคคีภัย ประกันภัยทางทะเลและขนส่ง และประกันวินาศภัยเบ็ดเตล็ด เป็นต้น
(2) ธุรกิจนายหน้าประกันชีวิต ดำเนินธุรกิจผ่าน บริษัท ทีคิวเอ็ม ไลฟ์ อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด (TQM Life) ซึ่งมีการเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตทั้งสิ้นกว่า 20 ผลิตภัณฑ์ ครอบคลุมทั้งประกันชีวิตประเภทรายบุคคลและประกันชีวิตประเภทกลุ่ม
(3) ธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและซอฟต์แวร์ผ่านบริษัท แคสแมท จำกัด (Casmatt) ซึ่งครอบคลุมการให้คำปรึกษาด้านกระบวนการทางธุรกิจ งานวิจัยตลาดดิจิตอล เป็นต้น
และ (4) ธุรกิจให้บริการด้านคำแนะนำเกี่ยวกับประกันภัย ผ่านบริษัท ทีคิวแอลดี จำกัด (TQLD) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมเพื่อเป็นช่องทางให้กับลูกค้าในการค้นหาและเปรียบเทียบข้อมูลประกันภัยได้อย่างรวดเร็ว และประหยัดเวลา ผ่านรูปแบบการกรอกข้อมูลของลูกค้า ทั้งนี้ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทฯ มีพันธมิตรที่เป็นบริษัทประกันภัยกว่า 40 แห่ง มีพนักงานขายที่ได้รับใบอนุญาตนายหน้าประกันภัยให้บริการกว่า 2,000 คน ผ่านสาขาและศูนย์บริการทั่วประเทศรวม 95 แห่ง ที่สามารถให้บริการลูกค้าได้ครอบคลุมและทั่วถึงทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย
นางนภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TQM เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจของ บริษัทฯ มีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง มีปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมประกัน ทำให้โอกาสเติบโตมีมาก นอกจากนี้ อัตราการทำประกันภัยในประเทศไทยยังต่ำเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน โดยจากข้อมูลรายงานธุรกิจประกัน ประจำปี 2559 ของ สวีส รีอินชัวร์รัน ซึ่งเป็นบริษัทประกันชั้นนำของโลก พบว่าธุรกิจประกันของประเทศในทวีปเอเชีย ประเทศไทย มีสัดส่วนเบี้ยประกันรับรวมทุกประเภทต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Insurance Penetration) ที่ 5.42%
หากพิจารณา เบี้ยประกันภัยต่อคน (Insurance Density) พบประเทศไทย มีเบี้ยประกันภัยต่อคน (Insurance Density) เพียง 323.4 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน (GDP) ต่อจำนวนประชากร ต่ำกว่าประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และเกาหลีใต้ ซึ่งผลดังกล่าวทำให้บริษัทฯ ได้รับประโยชน์จากอุตสาหกรรมประกันที่มีโอกาสขยายตัวได้อีกในอนาคต โดยกลุ่มบริษัทฯ ซึ่งประกอบธุรกิจนายหน้าประกันภัย ไม่มีความเสี่ยงด้านการดำรงเงินกองทุนฯและการบริหารผลตอบแทนจากเบี้ยประกันภัย