นายองอาจ ปัณฑุยากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออลล่า (ALLA) เปิดเผยว่า บริษัทได้รับความไว้วางใจจาก บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) ให้ดูแลงานระบบจัดการคลังสินค้า (Warehouse System Provider) และในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทเตรียมจะเข้าร่วมประมูลงานอีกจำนวนมาก กระจายในหลายอุตสาหกรรม อาทิ กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมี โรงไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ คาดว่าจะรู้ผลภายในเดือน พ.ย.นี้
ณ สิ้นเดือน ก.ย.61 บริษัทมีงานในมือ (Backlog) ราว 412 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 110 ล้านบาท หรือ 36% จากสิ้นปี 60 เป็นผลจากการขยายการลงทุนของภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจในภาพรวม โดย Backlog ดังกล่าวจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/61 เป็นต้นไป
สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯในงวดไตรมาส 3/61 มีกำไรสุทธิ 22.85 ล้านบาท เติบโต 71% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 13.40 ล้านบาท นับเป็นไตรมาสที่ทำกำไรสูงสุดนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 8 ไตรมาส
แม้ว่าในแง่ของรายได้ของบริษัทในไตรมาส 3/61 จะมีจำนวน 168.31 ล้านบาท ลดลง 9% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่เนื่องจากบริษัทมีงานโครงการพิเศษที่ได้ดำเนินการส่งมอบให้ลูกค้าระหว่างไตรมาส รวมถึงสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดี ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 14% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ระดับ 7%
ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 61 บริษัทมีกำไรสุทธิ 43.86 ล้านบาท เติบโต 16.21% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 60 ที่มีกำไรสุทธิ 37.74 ล้านบาท โดยมีรายได้ในงวด 9 เดือนแรกของปี 61 ที่ 450 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 2%
"รายได้รวมในงวด 9 แรกขยายตัวได้ดี เป็นผลมาจาก รายได้จากการขายประตูอุตสาหกรรมและสะพานปรับระดับ เพิ่มขึ้นถึง 43% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 60 รับอานิสงส์จากการขยายตัวของกลุ่มคลังสินค้าและกลุ่มค้าปลีก ขณะที่รายได้จากการขายเครนและรอกไฟฟ้าลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทมีโครงสร้างทางการเงินมั่นคง ยังคงมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน และอัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับต่ำเพียง 0.25 เท่า ทำให้มีความพร้อมในอันที่จะเดินหน้าเข้าร่วมประมูลงานอย่างต่อเนื่อง หวังเพิ่ม Backlog ให้เพิ่มขึ้น"นายองอาจ กล่าว