IVL คาด EBITDA ปี 62 โตมาที่ 1.75 พันล้านเหรียญฯ รับรู้กิจการใหม่เต็มปี,ตั้งงบลงทุนโครงการต่อเนื่อง 1.2 พันล้านเหรียญฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 12, 2018 13:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายดีลิป กุมาร์ อากาวาล กรรมการ บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) กล่าวว่า บริษัทคาดว่ากำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในปี 62 จะเติบโตมาที่ 1.75 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็นไปตามการรับรู้กำไรกิจการในธุรกิจกลุ่มยานยนต์ (Kordarna) และกลุ่มอนามัย (Avgol) ที่เข้าซื้อกิจการมาในปีนี้เข้ามาเต็มที่ในปีหน้า

ขณะที่ขนาดของบริษัทในห่วงโซ่มูลค่าโพลีเอสเตอร์ระดับโลก และผลิตภัณฑ์ HVA เติบโตขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการที่ผ่านมา โดยบริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิต PET เป็น 1.1 ล้านตัน จากการซื้อโรงงานในประเทศบราซิลและอียิปต์ และได้เพิ่มกำลังการผลิต PTA อีก 1.1 ล้านตันจากการซื้อกิจการ PTA ในประเทศโปรตุเกส รวมถึงยังมีการขยายโรงงาน PTA Rotterdam

นอกจากนั้น จะรับรู้ปริมาณการผลิตเต็มปีจาก Gas Cracker ในประเทศสหรัฐอเมริกา และรับรู้กำไรเต็มปีจากการขยายโรงงาน Performance Fibers ในประเทศจีน

บริษัทยังรับรู้กำไรเต็มปีจากการเข้าซื้อกิจการ Medco Plast for Packing and Packaging Systems S.A.E. ประเทศอียิปต์ ผู้แปรรูปผลิตภัณฑ์ PET ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอียิปต์ คาดว่าจะเสร็จสิ้นได้ในไตรมาส 4/61 และการเข้าซื้อกิจการกลุ่มบริษัท Schoeller ผู้ผลิตด้ายขนสัตว์แท้และด้ายขนสัตว์ผสมในทวีปยุโรป คาดว่าจะเสร็จสิ้นในไตรมาส 4/61 ทำให้จะช่วยยกระดับกลุ่มธุรกิจ HVA Fibers และส่งเสริมธุรกิจ worsted wool รวมถึง บริษัท M&G Fibras Brasil Ltda. ซึ่งเป็นผู้ผลิตเส้นใยโพลีเอสเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศบราซิล โดยทั้งหมดนี้จะส่งผลทำให้กำลังการผลิตในปี 62 น่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 14 ล้านตัน

นายดีลิป เปิดเผยว่า บริษัทวางงบลงทุนในปี 62 ราว 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะใช้ในการลงทุนโครงการต่อเนื่องในกิจการร่วมทุน Corpus Christi ในประเทศสหรัฐอเมริกา ในการขยายฐานการผลิต PTA และ PET ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในต้นปี 63

สำหรับทิศทางอุตสาหกรรมในภาพรวมในปีหน้า บริษัทมองว่าปัจจัยพื้นฐานในอุตสาหกรรมยังคงส่งผลบวกอย่างต่อเนื่อง จากอุปทานและราคาวัตถุดิบจะปรับตัวสู่ระดับปกติ จากปัจจุบันที่อยู่ในระดับสูง ปริมาณพาราไซลีนที่มีอย่างเพียงพอ และอุปทานของ MEG ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจในหลายประเทศที่ยังเติบโตได้ดี แม้ว่าบริษัทจะได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน แต่เชื่อว่าประเด็นดังกล่าวจะคลี่คลายได้จากการเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกัน

นายดีลิป กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินงานในปี 61 บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้ไว้ตามเดิมที่ 1.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ และคาด EBITDA จะเติบโตดีกว่าปีก่อน หลังจาก 9 เดือนที่ผ่านมา EBITDA ก็เติบโตแล้ว 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็น 1.12 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่คาดแนวโน้มไตรมาส 4/61 EBITDA น่าจะเติบโตกว่าไตรมาส 4/60 แม้ว่าจะเป็นช่วงของโลว์ซีซั่น แต่มีปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น และมีส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ