ดัชนีหุ้นไทยภาคบ่ายร่วงกว่า 10 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับลดลง ขณะที่มีแรงขายหุ้นใหญ่ออกมา โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มแบงก์ และพลังงาน ประกอบกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนขนาดกลางที่ออกมายังไม่ดีนัก ฉุดให้มีแรงขายออกมาถ่วงภาพรวมการลงทุน
เมื่อเวลา 15.15 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,657.74 จุด ลดลง 10.78 จุด (-0.65%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.33 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,658.49 จุด ลดลง 10.03 จุด (-0.60%)
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลงกว่า 10 จุด ภายหลังจากที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนขนาดกลางออกมาส่วนใหญ่ดูไม่ค่อยดี ทำให้ Sentiment ตลาดฯไม่ดี ขณะเดียวกันตลาดก็ไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา นักลงทุนจึงยังไม่มั่นใจตลาดฯ และทิศทาง Fund Flow ก็ดูเหมือนจะไม่ชัดเจน
นอกจากนี้ ในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย.จะเห็นได้ว่าเงินดอลาร์สหรัฐฯแข็งค่า และมักพบว่าช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยส่วนใหญ่จะแกว่งผันผวน และมีโอกาสที่จะปรับตัวลงด้วย อีกทั้งหลายปัจจัยที่เกิดขึ้นก็กดดันให้มีแรงขายมากกว่าซื้อ
ทั้งนี้ พรุ่งนี้ MSCI จะมีการทบทวนน้ำหนักการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ ซึ่งมองว่าตลาดอื่นมีโอกาสที่จะถูกปรับลดน้ำหนักลงทุนลงแล้วไปเพิ่มการลงทุนในหุ้นจีน เนื่องจากหุ้นจีนยังมีน้ำหนักการลงทุนที่น้อยอยู่
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียมีทั้งบวกและลบ โดยส่วนใหญ่ปรับลดลง แต่มีบางตลาดที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนที่บวกได้ 1%
พร้อมให้แนวรับ 1,650 จุด ส่วนแนวต้าน 1,670 จุด