นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ศุภาลัย(SPALI)คาดว่า ราคาบ้านที่สร้างใหม่ในปี 51 จะปรับขึ้นประมาณ 5-10% ตามต้นทุนการก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้นจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ต้นทุนที่ดินจะสูงขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะความเจริญที่เปลี่ยนไป และราคาประเมินที่ดินที่เป็นมาตรฐานหลักปรับสูงขึ้น รวมทั้ง ต้นทุนวัสดุก่อสร้าง ค่าแรงงานที่ปรับสูงขึ้น การป้องกันแผ่นดินไหวของอาคารสูง ปัจจัยของสิ่งแวดล้อม
สำหรับ SPALI ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 9,999 ล้านบาท เฉพาะในส่วนที่เป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายทั้งคอนโดฯ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮ้าส์ ซึ่งคาดว่าจะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา 13% โดยบริษัทฯ คาดว่าสัดส่วนรายได้จะเป็นจากคอนโดมิเนียม 60% และจากบ้านจัดสรรและอื่นๆ 40% จากโครงการที่จะเปิดขายรวมทั้งหมด 35 โครงการ
นายประทีป กล่าวว่า กลุ่มบริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ 14 โครงการ คาดว่ามูลค่าโครงการใหม่จะรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นโครงการมในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 8 โครงการ เป็นอาคารสูง 4 โครงการ และโครงการแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝดและทาวน์เฮ้าส์ 4 โครงการ รวมทั้งโครงการใหม่ที่จังหวัดภูเก็ต 4 โครงการ ซึ่งมีทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดฯ
นอกจากนี้ ยังมีโครงการของบริษัทฯ ในกลุ่ม ได้แก่ บริษัท หาดใหญ่นครินทร์ จำกัด จะเปิดโครงการใหม่ 2 โครงการเป็นบ้านเดี่ยว 1 โครงการ และคอนโดฯ 1 โครงการ
“บริษัทฯ ได้เตรียมงบประมาณซื้อที่ดินประมาณ 2,500-3,000 ล้านบาท และตั้งงบโฆษณาและประชาสัมพันธ์ 120 ล้านบาท" นายประทีป กล่าว
ส่วนผลประกอบการในปี 50 บริษัทฯ มียอดขายรวม 8,850 ล้านบาท สูงกว่าเป้ายอดขายที่ตั้งคือ 8,800 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากคอนโดฯ 70% ส่วนบ้านจัดสรรและรายได้อื่น ๆ รวม 30% และเมื่อเทียบกับปี 49 ถือว่ายอดขายรวมเติบโตขึ้น 19.6% โดยบริษัทฯ สามารถรักษาค่าใช้จ่ายการขาย-การบริหารให้คงอยู่เพียง 9% ของรายได้รวม
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--