นายเฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป (EPG) เปิดเผยถึงผลประกอบการงวดไตรมาส 2 ปี 61/62 (ก.ค.-ก.ย.61) มีกำไรสุทธิ 262 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 292 ล้านบาท หรือปรับตัวลดลง 30 ล้านบาท คิดเป็น 10% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 28% ซึ่งบริษัทสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
บริษัทมีรายได้จากการขาย 2,682 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 2,430 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 252 ล้านบาท คิดเป็น 10% เป็นผลจากการดำเนินงานของ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex มีรายได้จากการขาย 789 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ยอดขายของบริษัทเติบโตจากตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และการเติบโตของยอดขายผลิตภัณฑ์ Aeroroof ฉนวนกันความร้อนใต้หลังคาที่ได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี
ขณะที่ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas เติบโตได้ดี มีรายได้จากการขาย 1,350 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากผลิตภัณฑ์หลักเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการรับรู้รายได้ต่อเนื่องจากธุรกิจในต่างประเทศ ได้แก่ TJM Products Pty.Ltd และ Flexiglass Challenge Pty.Ltd ซึ่งเป็นช่องทางจัดจำหน่ายที่สำคัญของ Aeroklas ในประเทศออสเตรเลีย โดยล่าสุด TJM Products Pty.Ltd เปิด Corporate Store สาขาที่ 3 ณ เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งได้มีการลงทุนเพิ่มเติมใน Software เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการออเดอร์สินค้า
สำหรับธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP มีรายได้จากการขาย 544 ล้านบาท หรือ ลดลง 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนซึ่งเป็นโลว์ซีซั่นของธุรกิจอาหาร ร้านค้าต่างๆ อีกทั้งการบริโภคภายในประเทศมีการฟื้นตัวอย่างล่าช้า และยังไม่แสดงทิศทางการฟื้นตัวอย่างชัดเจน ประกอบกับราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา จึงส่งผลต่อการดำเนินงานของ EPP