ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,655.76 จุด เพิ่มขึ้น 0.91 จุด (+0.05%) มูลค่าการซื้อขาย 23,386.17 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,658.42 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,642.83 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าสามารถรีบาวด์กลับขึ้นมาได้หลังจากที่ร่วงลงไปแถว 1,645 จุดแล้วเด้งขึ้นมา ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ยังติดลบตามดัชนีหุ้นดาวโจนส์ที่ปรับตัวลงกว่า 2% เมื่อคืนที่ผ่านมา ยกเว้นตลาดอินโดนีเซียที่กลับมายืนในแดนบวกได้เช่นกัน หลังจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าเล็กน้อย ขณะที่ค่าเงินในเอเชียได้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม มองเป็นแค่การรีบาวด์ในช่วงสั้นหลังผ่อนคลายเล็กน้อย เนื่องจากปัจจัยยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง โดยทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯยังคงมีแนวโน้มของการแข็งค่า และยังต้องติดตามราคาน้ำมันที่ช่วงสั้นยังเป็นขาลง ทำให้กดดันตลาดบ้านเราค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ดี เช้านี้ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สได้กลับมาเป็นบวกกว่า 100 จุด ทำให้ผ่อนคลายความกังวลลงได้บ้าง แต่วอลุ่มเทรดตลาดโดยรวมเมื่อวานนี้น้อยมาก ส่วนหนึ่งอาจติดหุ้น อีกส่วนนักลงทุนอาจยังไม่กล้าลงทุน ขณะที่นักลงทุนรายสถาบันก็รอดูทิศทางตลาดฯก่อน พร้อมให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 14 พ.ย.นี้ คาดว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวิจิตร กล่วว่า ตลาดฯยังมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นได้แต่คงจะไม่แรง พร้อมให้แนวรับ 1,645 จุด ส่วนแวต้าน 1,665 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,700.62 ล้านบาท ปิดที่ 68.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,497.45 ล้านบาท ปิดที่ 50.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
BEAUTY มูลค่าการซื้อขาย 1,027.53 ล้านบาท ปิดที่ 10.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
IVL มูลค่าการซื้อขาย 903.70 ล้านบาท ปิดที่ 54.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 780.26 ล้านบาท ปิดที่ 181.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง