นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอ็กโซติค ฟู้ด (XO) เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับประมาณการเป้าหมายรายได้รวมในปี 61 คาดว่าจะเติบโตมากกว่า 15% จากเป้าหมายในช่วงต้นปีที่วางไว้จะเติบโต 10-15% เมื่อเทียบกับปี 60 รายได้รวมอยู่ที่ 947.64 ล้านบาท กำไรสุทธิ 59.03 ล้านบาท
เนื่องจากภาพรวมธุรกิจมีแนวโน้มการเติบโตที่โดดเด่นมาตั้งแต่ต้นปี สนับสนุนให้ผลงานไตรมาส 3/61 ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง เป็นไตรมาสที่เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในแง่ของรายได้ ส่วนกำไรสุทธิงวด 9 เดือนทุบสถิติกำไรทั้งปีของบริษัทนับตั้งแต่ก่อตั้ง จากแผนการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่นิคมอมตะซิตี้ จ.ระยอง แล้วเสร็จ พร้อมขยายตลาดสินค้ากลุ่มซอสและน้ำจิ้ม รวมทั้งเครื่องแกงเครื่องประกอบอาหารไทย ซึ่งอยู่ในความสนใจและความต้องการในตลาดโลก
สำหรับโอกาสการเติบโตของผลประกอบการในไตรมาส 4/61 คาดว่าจะยังคงอยู่ในทิศทางที่ดี เนื่องจากคำสั่งซื้อที่เข้ามาสนับสนุน ราคาต้นทุนวัตถุดิบของบริษัทฯ ปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยราคาน้ำตาลประเภทไซรัปสำหรับใช้ที่โรงงานใหม่ได้ต้นทุนที่ต่ำลงอีกประมาณ 15% เมื่อเทียบกับราคาน้ำตาลไซรัปในช่วงต้นไตรมาส 3/61 รวมทั้ง การปรับราคาขายสินค้าขึ้นในช่วงไตรมาส 3/61 เป็นอีกปัจจัยสนับสนุนผลงานโค้งสุดท้ายของปีให้เติบโตโดดเด่นต่อเนื่องได้
ล่าสุด บริษัทฯ ประกาศผลการดำเนินงานประจำงวดไตรมาส 3/61 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 67.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 252.32% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าทำได้ 19.17 ล้านบาท มีรายได้จากการขายสินค้า 301.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.03% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนทำได้ 224.58 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าเท่ากับ 39.18% เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 30.60 ผลประกอบการเติบโตขึ้นอย่างน่าประทับใจในครั้งนี้ มีสาเหตุหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้า และอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึง การลดลงของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
ผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 61 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 156.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 218.54% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าทำได้ 49.20 ล้านบาท ทำลายสถิติสูงสุดกำไรสุทธิทั้งปีนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท และมีรายได้จากการขายสินค้า 832.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.82% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนทำได้ 706.68 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการขายสินค้าในกลุ่มซอสปรุงรสและน้ำจิ้มต่างๆ โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าเท่ากับ 37.52% เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 29.94% เนื่องจากการลดลงของราคาน้ำตาลและกระเทียม ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนการขายสินค้าในกลุ่มซอสปรุงรสและน้ำจิ้มต่างๆ และการปรับขึ้นราคาขายสินค้า
นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 60 บริษัทฯ อยู่ระหว่างการย้ายฐานการผลิตสินค้ากลุ่มซอสปรุงรสและน้ำจิ้มต่างๆ ไปยังโรงงานแห่งใหม่ จึงทำให้ยังคงมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานฝ่ายผลิตที่ยังซ้ำซ้อนกันระหว่างโรงงานที่แหลมฉบัง และที่อมซิตี้ ประกอบกับโรงงานแห่งใหม่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นการผลิต จึงทำให้การผลิตยังไม่มีประสิทธิภาพเต็มที่ แต่ปีนี้จากสถานการณ์โรงงานแห่งใหม่ที่พร้อมรับออเดอร์ และแผนการตลาดและการขายที่ดี สนับสนุนให้ในช่วงสิ้นไตรมาส 3/61 บริษัทฯ ใช้อัตรากำลังการผลิตสินค้ากลุ่มซอสปรุงรสและน้ำจิ้มขึ้นไปแตะระดับที่ (utilization rate) 57% เรียบร้อยแล้ว