ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,653.21 จุด ลดลง 6.57 จุด (-0.40%) มูลค่าการซื้อขาย 20,885.74 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,660.74 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,652.87 จุด
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงรับผลจากแรงถ่วงหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันปรับตัวลงแรง แต่การเก็งกำไรโดยภาพรวมยังไม่ได้แย่ เนื่องจากยังมีหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับลงมามาก อย่างหุ้น SCC และหุ้นในกลุ่มโลจิสติกส์ นอกจากนี้หุ้นหลายตัวก็ได้ประกาศผลประกอบการออกมาแล้ว และไม่มีปัจจัยลบ ทำให้มีแรงซื้อคืนกลับมาได้บ้าง
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะปรับตัวลง แต่ตลาดกลุ่ม TIP โดยรวมถือว่าดีกว่าภูมิภาค โดยตลาดหุ้นอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ยังบวกได้ ยกเว้นตลาดหุ้นไทยที่ติดลบเล็กน้อย อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (EU) (Brexit) ที่ข้อตกลงน่าจะได้ข้อสรุปแล้ว ซึ่งถ้าจบได้จริง เชื่อว่าเงินยูโรจะแข็งค่าขึ้น ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯจะอ่อนค่าลง ทำให้การเงินโลกผ่อนคลายขึ้นได้
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายกิจพณ คาดว่า ตลาดฯจะค่อย ๆ ตั้งหลัก หลังจากที่ดัชนีฯยืนเหนือ 1,645 จุดขึ้นไปได้ ทำให้มีสัญญาณบวกจากแรงซื้อ และมีลุ้นที่จะฟื้นตัวขึ้นได้ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,650-1,670 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,237.16 ล้านบาท ปิดที่ 133.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,406.19 ล้านบาท ปิดที่ 49.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,181.88 ล้านบาท ปิดที่ 69.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
SCC มูลค่าการซื้อขาย 969.14 ล้านบาท ปิดที่ 440.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 669.92 ล้านบาท ปิดที่ 77.25 บาท ลดลง 1.75 บาท