สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งวันอยู่ที่ 40,963 ล้านบาท ด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด 2 อันดับแรก คือ 1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซื้อสุทธิ 235 ล้านบาท 2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ ซื้อสุทธิ 973 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 562 ล้านบาท Yield พันธบัตรอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.39% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก เมื่อวาน +0.02%
Yield Curve ปรับเพิ่มขึ้น 1-2 bps. ด้านกระแสเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติวันนี้ NET INFLOW 562 ล้านบาท โดยเกิดจาก NET BUY 562 ล้านบาท และไม่มีตราสารหนี้ ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ (Expired) สำหรับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มี NET SELL ของนักลงทุนต่างชาติ 1,755 ล้านบาท ด้านปัจจัยในประเทศ กนง. มีมติ 4 ต่อ 3 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี โดยประเมินว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่อง แม้อุปสงค์ต่างประเทศมีสัญญาณชะลอลงบ้าง อัตราเงินเฟ้อมี ทิศทางเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้เดิม ภาวะการเงินโดยรวมยังอยู่ในระดับผ่อนคลายและเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เสถียรภาพระบบการเงินโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ต้องติดตาม ความเสี่ยงที่อาจสะสม ความเปราะบางในระบบการเงินได้ในอนาคต ทั้งนี้ตลาดติดตามรายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้
ตลาดตราสารหนี้ไทย 14-11-2018 Change มูลค่าการซื้อขาย 40,963.04 ลบ. อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 3 เดือน 1.50 % 0.00 % อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 1 ปี 1.74 % 0.00 % อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 5 ปี 2.39 % +0.02 % >> มูลค่าการซื้อขายแบบ Outright (แยกตามประเภทตราสาร) << ประเภทตราสาร ล้านบาท Change ตั๋วเงินคลัง 0.00 -100 % พันธบัตรรัฐบาล 10,193.38 +60 % ตั๋วสัญญาใช้เงินรัฐบาล 0.00 n/a พันธบัตร ธปท. 25,957.32 -73 % พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ 977.05 +63263 % หุ้นกู้เอกชน 2,452.13 +27 % พันธบัตรต่างประเทศ 15.80 -86 % หมายเหตุ: n/a คือ หาค่าไม่ได้ เนื่องจากไม่มีมูลค่าการซื้อขายในวันก่อนหน้า