นางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แม็คกรุ๊ป (MC) เปิดเผยว่า บริษัทฯเปิดตัวสินค้า Activewear แบรนด์ "U-P " อย่างเป็นทางการในเดือน พ.ย.ด้วยคอลเลคชั่นแรกจากความร่วมมือกับพันธมิตร "U-P x Warrix: Conceal & Reveal" ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่เน้นความสนุก เท่ ให้พลัง ในสไตล์น้อยแต่มาก
สำหรับสาขาแรกเป็น U-P แฟล็กชิปสโตร์ที่ Stadium One สปอร์ตคอมมูนิตี้มอลล์ ใจกลางกรุงเทพและยังมีจุดจำหน่ายอื่นไม่ว่าจะเป็นร้านค้า Mc และ Warrix รวมถึง Super Sport ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมทั้งช่องทางออนไลน์ upactivelife.com นอกจากนี้ยังมีแผนในการจัดกิจกรรมต่างๆที่เลือกสรรมาให้เข้ากับกลุ่มสินค้านี้ทั้งที่ร้านค้าแม็คยีนส์และร้านค้า Warrix รวมถึงการเปิดจุดจำหน่ายสินค้าเพิ่มเติมที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เพื่อให้ตรงและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น
นายบัณฑิต ประดิษฐ์สุขถาวร ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินและบัญชีและผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจ MC กล่าวว่า ในส่วนธุรกิจอื่น แม็คกรุ๊ปมีการขยายจุดจำหน่ายและบริหารพื้นที่ขายสำหรับ mcmc Outlet Store เพื่อขยายสู่ฐานลูกค้าที่เป็นคนท้องถิ่นได้อย่างทั่วถึง และเพิ่มความพร้อมในการบริหารสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเปิดสองสาขาแรกภายนอกปั๊มน้ำมัน ปตท. ที่ โกลบอลเฮ้าส์ สาขาเวียงกุมกามและสาขาฝาง จังหวัดเชียงใหม่
สำหรับช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ mcshop.com ยังมีการสรรหาสินค้าภายใต้ตราสินค้าของพันธมิตรรายต่างๆ ที่เป็นที่นิยมของผู้บริโภคเข้ามาเสริมทัพ โดยล่าสุดเป็นผลิตภัณฑ์ความงามและสินค้ากระเป๋าจากแบรนด์พันธมิตรชั้นนำ นอกจากนี้บริษัทได้ร่วมลงทุนใน Mcmillion เพื่อบริหารการจัดการคลังสินค้าแบบครบวงจรสำหรับธุรกิจ E-commerce ไม่ว่าจะเป็นบริการพื้นที่จัดเก็บสินค้า การค้นหาและบรรจุหีบห่อ และบริการจัดส่งให้กับแพลตฟอร์มทางการค้าปลีกออนไลน์ของบริษัทให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ในรอบปีบัญชี 62 แม๊คกรุ๊ปยังคงเดินหน้าเพิ่มพื้นที่ในการขายเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น โดยวางแผนเปิดจุดจำหน่ายใหม่อีกประมาณ 40 แห่งในส่วนของร้านค้าปลีกของตนเองและห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ทั้งนี้ การดำเนินธุรกิจบริหารตราสินค้าและบริหารแพลตฟอร์มทางการค้าต่างๆควบคู่กัน ทำให้บริษัทฯสามารถตอบรับกับโลกของเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง ส่งมอบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพโดยสร้างประสบการณ์ร่วมที่ดีกับกลุ่มลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่องภายในระบบนิเวศค้าปลีกทุกช่องทาง โดยเน้นการต่อยอดจากรากฐานและโอกาสในการขยายธุรกิจเพื่อเดินหน้าเป็นผู้นำค้าปลีกไลฟ์สไตล์และสร้างผลลัพธ์ระยะยาวอย่างยั่งยืน
สำหรับผลประกอบการในงวดไตรมาส 1/61 (ก.ค.-ก.ย.61 ) มียอดขายรวม 815 ล้านบาท กำไรขั้นต้นรวม 488 ล้านบาทคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นที่ 59.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 60 ซึ่งอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 53.2% และมีกำไรสุทธิรวม 94 ล้านบาทคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 11.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนซึ่งอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 9.5%