นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี (CCP) กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจของบริษัทในช่วงไตรมาส 4/61 คาดว่าจะเติบโตในเกณฑ์ดี จากโครงการขนาดใหญ่มีการลงทุนก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีทิศทางในการขยายความสามารถในการแข่งขันในสินค้าคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast) มีความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังมีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) เข้ามาจากโครงการของภาครัฐ เอกชน ในเขตของโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ EEC อาทิ งานถนน และนิคมอุตสาหกรรม คาดว่าจะเริ่มดำเนินงานและรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 1/62
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมุ่งเน้นการเป็นผู้นำตลาดคอนกรีตในภาคตะวันออก พร้อมพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมใหม่ เพื่อรองรับงานโครงสร้างพื้นฐาน ขณะเดียวกันบริษัทยังคงเดินหน้าเข้าเสนองานใหม่กับลูกค้าภาครัฐ-เอกชน งานราชการส่วนท้องถิ่นต่างๆ ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog ) อยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ 1.5 ปี
สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 3/61 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 46.91 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.0169 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5.48 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.002 บาท ส่วนงวด 9 เดือนแรกมีผลขาดทุน 56.25 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุน 22.71 ล้านบาท
CCP ระบุว่าในไตรมาส 3/61 บริษัทมีรายได้เฉพาะกิจการ 454 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 412 ล้านบาท จำนวน 42 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.46% และมีรายได้จากงบการเงินรวม 682.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 633.14 ล้านบาท จำนวน 49.66 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.84% และมีกำไรเฉพาะกิจการ 26 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรเฉพาะกิจการ 4.85 ล้านบาท จำนวน 21.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 435 % โดยมีกำไรจาก จากการขายแพลนท์และเครื่องจักร ในส่วนของคอนกรีตผสมเสร็จ (Ready Mixed) ให้กับพันธมิตร
ส่วนงวด 9 เดือนปี 61 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 1,861 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,765 ล้านบาท จำนวน 96 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.44% แต่มีขาดทุนสุทธิ 62 ล้านบาท เนื่องมาจากบริษัทฯมีการตั้งประมาณการหนี้สิน เบี้ยปรับภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกรมสรรพากร จำนวน 77.06 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการอุทธรณ์การประเมินภาษี