นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานในงวดงวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 378 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% และมีกำไรหลักจากการดำเนินการอยู่ที่ 390 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% ในขณะที่ไตรมาส 3/61 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 118 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119% จากงวดเดียวกันปีก่อน และมีกำไรหลักจากการดำเนินการอยู่ที่ 124 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากงวดเดียวกันปีก่อน
สาเหตุที่กำไรปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเริ่มเดินเครื่องจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการทั้งในประเทศญี่ปุ่น คือ Hidaka กำลังการผลิต 21 เมกกะวัตต์ ตั้งแต่เดือน มี.ค.และ โครงการ Zouen กำลังการผลิต 8 เมกกะวัตต์ ตั้งแต่เดือน ส.ค. รวมถึงโครงการ Solar Rooftop ในประเทศไทย ซึ่งทยอย COD ในระหว่างปี ซึ่งทุกโครงการข้างต้น มีการเริ่ม COD เป็นไปตามแผน หรือก่อนแผนงานที่ได้แจ้งไว้อีกด้วย
ด้านผลประกอบการในไตรมาส 3 นี้ ธุรกิจพลังงานทดแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Solar Farm ผลของฤดูกาลเข้ามามีผลต่อปริมาณผลิตไฟฟ้า ซึ่งส่งผลต่อทุกบริษัท เพราะเป็นช่วงฤดูฝนทั้งในไทยและญี่ปุ่น ดังนั้นโดยธรรมชาติก็จะมีปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์น้อยกว่าไตรมาส 2 เป็นปกติ แต่ถ้าเทียบกับไตรมาส 3 ปีที่แล้วจะเห็นว่า SSP เติบโตสูงมาก
นายวรุตม์ กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่าปี 61 จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่ COD แล้วรวมประมาณ 85 เมกกะวัตต์ มีกำลังการผลิต และตามแผนงานจะเริ่ม COD ในช่วง 3 เดือนข้างหน้านี้อีก 21 เมกกะวัตต์ จากโครงการโซลาร์ อผศ. และโครงการในมองโกเลีย และในช่วงกลางปีหน้าอีก 50 เมกกะวัตต์จากโครงการในเวียดนาม ทำให้ภายในกลางปีหน้า SSP จะมีกำลังการผลิตที่ COD แล้วรวม 157 เมกกะวัตต์ จะเห็นว่าจาก 85 เมกกะวัตต์ในปัจจุบัน เราจะเติบโตไปอีก 71 เมกกะวัตต์ในระยะอันใกล้ และยังมุ่งหาโครงการใหม่ๆมาเสริมอย่างไม่หยุดยั้ง
"ช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่บริษัทประสบความสำเร็จในการได้โครงการเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศใหม่ๆเช่น มองโกเลีย เวียดนาม เราเชื่อว่าจุดเด่นของกลุ่มธุรกิจเราที่มีศักยภาพในการเฟ้นหาโครงการที่มี IRR ที่ดี จากทั่วโลก จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทอย่างยั่งยืน"นายวรุตม์ กล่าว