นายสันติสุข โฆษิอาภานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โซนิค อินเตอร์เฟรท (SONIC) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 62 เติบโต 20% จากปีนี้ที่คาดว่ารายได้จะแตะ 1 พันล้านบาท ตามการขยายฐานธุรกิจและฐานลูกค้าเพิ่มเติม ประกอบกับบริษัทมีการประเมินภาพรวมตลาดนำเข้าและส่งออกในภูมิภาคมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูง ซึ่งบริษัทยังมีสัดส่วนการให้บริการที่ค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดโดยรวม ทำให้เห็นโอกาสการเติบโตในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเล 60% การขนส่งสินค้าทางบก 25% และการขนส่งทางอากาศและอื่น ๆ 15% โดยบริษัทมีจำนวนฐานลูกค้าทั้งหมดกว่า 400-500 ราย ซึ่งคาดว่าจะสามารถให้บริการได้ครอบคลุมมากขึ้น และมีโอกาสในการขยายฐานลูกค้าจากปัจจุบันไม่มีข้อจำกัดด้านเงินทุน
บริษัทตั้งงบลงทุนปี 62 ราว 200 ล้านบาท โดยเงินลงทุนจะมาจากการระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่มีอยู่ราว 290 ล้านบาท โดยจะนำเงินไปปรับปรุงอาคารและพื้นที่ศูนย์กระจายสินค้าจำนวน 60 ล้านบาท ขยายฟรีจรถหัวลากและหางลากเพิ่มอีก 60 ล้านบาท ก่อสร้างอาคารสำนักงานและลาดจอดรถในพื้นที่แหลมฉบัง 60 ล้านบาท และลงทุนพัฒนาระบบสารสนเทศและเทคโนโลยี 20 ล้านบาท โดยคาดว่ากระบวนการต่าง ๆ จะแล้วเสร็จภายในปี 62 ส่วนที่เหลืออีก 90 ล้านบาทจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
"แผนการลงทุนดังกล่าว เพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวของกลุ่มลูกค้าเดิม และขยายฐานลูกค้ารายใหม่ ที่จะเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น และยังเป็นการรองรับการขนส่งด้านโลจิสติกส์ ที่จะขยายไปตามโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)" นายสันติสุข กล่าว
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเบื้องต้นกับพันธมิตรต่างประเทศเพื่อลงทุนเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับโลจิสติกส์ แต่คาดว่าจะยังไม่เห็นความชัดเจนเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากยังต้องใช้เวลาศึกษาการลงทุนเพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯคาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้จากการให้บริการ 964.30 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิ 47.92 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้หลักยังคงมาจากการให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเล (Sea Freight) ประมาณ 65% รองลงมาธุรกิจการจัดการขนส่งทางบก ภายในประเทศ (Transport) และการจัดการขนส่งสินค้าข้ามแดน (Cross-border Transport) 25% และ ธุรกิจการจัดการขนส่งระหว่างประเทศทางอากาศ (Air Freight) 10%
ทั้งนี้ ผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกปี 61 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย.61 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการ 860.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.85% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 706.20 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 37.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 35.19 ล้านบาท
ขณะที่งวดไตรมาส 3/2561 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการ 311.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.81% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 234.40 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 11.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.97% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10.29 ล้านบาท
สาเหตุที่บริษัทมีผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น รวมถึงปริมาณงานทั้งในประเทศและระหว่างประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้นจากความต้องการใช้บริการขนส่งทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ ส่งผลให้อัตราการเติบโตจากยอดขายและบริการของ 3 ธุรกิจหลัก 1) ธุรกิจบริการขนส่งทางเรือ ซึ่งเติบโตเพิ่มขึ้น 22.07% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 2) ธุรกิจบริการขนส่งทางบก จากการขยายจำนวนรถที่ให้บริการ และเส้นทางขนส่งแบบข้ามพรมแดน เติบโตเพิ่มขึ้น 8.30% และ 3) การเติบโตของธุรกิจการจัดการขนส่งทางอากาศ ที่เติบโตเพิ่มขึ้น 104.41% ซึ่งจากอัตราการเติบโตดังกล่าวส่งผลให้บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 20%
ล่าสุด บริษัทฯได้เซ็นสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจ กับกลุ่มบริษัท ซีกัลล์ ซัพพลาย เชน (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติมาเลเซีย หนึ่งในผู้นำการให้บริการธุรกิจขนส่งสินค้าผ่านชายแดนไทย-มาเลเซีย-สิงคโปร์ ทางรถบรรทุก ซึ่งได้มีการเช่าอาคารสถานที่ศูนย์จัดเก็บสินค้า บนพื้นที่ขนาด 2,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการกระจายสินค้า และการขนส่งข้ามแดนไทย-มาเลเซีย ซึ่งในเบื้องต้น บริษัทฯจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ จากการเช่าพื้นที่ของ บริษัท ซีกัลล์ ซัพพลาย เชน ตั้งแต่เดือน ธ.ค.นี้เป็นต้นไป และจะรับรู้รายได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ไตรมาส 1/62
https://youtu.be/-5IvFp-s6QY