นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) คาดว่า ในสิ้นปี 51 มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด(มาร์เก็ตแคป)จะอยู่ที่ 6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 50 ที่อยู่ที่ 38,269 ล้านบาท โดยในปีนี้คาดว่าจะมีบริษัทเข้าจดทะเบียนเพิ่มขึ้นอีก 12-15 บริษัท คิดเป็นมูลค่ามาร์เก็ตแคปประมาณ 6-8 พันล้านบาท
บริษัท Dimet ที่จะเข้าซื้อขายในตลาด mai ในวันที่ 21 ม.ค.นี้เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน ถึงแม้ภาวะตลาดหุ้นโดยรวมจะมีความผันผวน เนื่องจากหากพิจารณาการซื้อขายในตลาด mai ขณะนี้ พบว่าได้รับความสนใจมากกว่าในตลาด SET
ด้านความคืบหน้าของการจัดตั้งบริษัท เอ็ม เอ ไอ แม็ทชิ่ง ฟันด์ เพื่อทำธุรกิจกองทุนเพื่อการร่วมลงทุน(Venture Capital) นั้น คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน ไตรมาส 1/51 โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวและความสนใจในธุรกิจเงินร่วมลงทุน มีผู้ลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศเข้ามาร่วมลงทุน เกิดการจัดตั้งนิติบุคคลร่วมลงทุนเพิ่มขึ้นในลักษณะทวีคูณ (Multiple Effect) ทำให้เกิดแหล่งระดมทุนสำหรับตลาดแรกผ่านธุรกิจเงินร่วมลงทุนอย่างกว้างขวาง
ขณะนี้มีผู้จัดการกองทุนและผู้ร่วมลงทุน 4-5 รายสนใจร่วมจัดตั้งนิติบุคคลร่วมลงทุนกับบริษัท คาดว่าจะสามารถจัดตั้งนิติบุคคลร่วมลงทุนรายแรกได้ภายในไตรมาส 2/51 โดยจะสามารถจัดตั้งได้ภายในปีนี้ 3 กองทื่จะเข้าลงทุนในธุรกิจชิ้นส่วน, อาหาร, ไอซีที ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับผู้ที่จะเข้ามาร่วมลงทุน
ตลาดหลักทรัพย์ mai ตั้งเป้าหมายว่าภายใน 3 ปี บริษัท เอ็ม เอ ไอ แม็ทชิ่ง ฟันด์ จะสามารถร่วมตั้งนิติบุคคลร่วมลงทุนได้อย่างน้อย 5 กองทุน ซึ่งจะทำให้เกิดการร่วมลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพประมาณ 40 บริษัท โดยหากกิจการที่ลงทุนสามารถเข้าจดทะเบียนได้ 20 บริษัท ก็จะสามารถเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดได้อีกประมาณหนึ่งหมื่นล้านบาท
นายชนิตร กล่าวว่า เป้าหมายวงเงินในบริษัทร่วมลงทุนเชื่อว่าจะมีเม็ดเงินเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่น้อยเมื่อเทียบกับมาร์เก็ตแคปรวมที่ปัจจุบันอยู่ที่ 6-7 หมื่นล้านบาท และตั้งเป้าที่จะให้เป็น 1 แสนล้านบาทใน 4-5 ปีข้างหน้า
สำหรับผลการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์ mai ในปี 50 มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 28 ธันวาคม 50 ดัชนี mai ปิดที่ 272.37 จุด เพิ่มขึ้น 78.94 จุดจากปี 49 หรือเพิ่มขึ้น 41% ขณะที่มาร์เก็ตแคปมาอยู่ที่ 38,269 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง
75% จากปี 49 ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 339 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 200% จากสิ้นปี 49
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--