สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งวันอยู่ที่ 35,529 ล้านบาท ด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด 2 อันดับแรก คือ 1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซื้อสุทธิ 5,482 ล้านบาท 2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ ซื้อสุทธิ 1,225 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 903 ล้านบาท Yield พันธบัตรอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.31% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.04%
Yield Curve ปรับลดลงประมาณ 2-6 bps. ในตราสารระยะยาว ส่วนหนึ่งมาจากการรายงานตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 3/2561 ของสภาพัฒน์ฯ ขยายตัว 3.3% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวถึง 4.6% เป็นไปตามอุปสงค์ภาคต่างประเทศ ขณะที่อุปสงค์ในประเทศปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง พร้อมทั้งปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยทั้งปี 61 จะขยายตัว 4.2% หรืออยู่ที่กรอบล่างของคาดการณ์เดิมที่ 4.2-4.7% ด้านกระแสเงินลงทุน ของนักลงทุนต่างชาติวันนี้ NET OUTFLOW 903 ล้านบาท โดยเกิดจาก NET SELL 903 ล้านบาท และไม่มีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ (Expired) สำหรับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มี NET BUY ของนักลงทุนต่างชาติ 469 ล้านบาท ทั้งนี้ตลาดติดตามรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือน ต.ค. ในวันพรุ่งนี้
ตลาดตราสารหนี้ไทย 19-11-2018 %Change มูลค่าการซื้อขาย 35,529.17 ลบ. อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 3 เดือน 1.49 % 0.00 % อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 1 ปี 1.73 % 0.00 % อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 5 ปี 2.31 % -0.04 % มูลค่าการซื้อขายแบบ Outright (แยกตามประเภทตราสาร) ประเภทตราสาร ล้านบาท %Change ตั๋วเงินคลัง 1,273.60 +6305 % พันธบัตรรัฐบาล 11,230.88 +60 % ตั๋วสัญญาใช้เงินรัฐบาล 0.00 n/a พันธบัตร ธปท. 20,988.17 -60 % พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ 62.78 +527 % หุ้นกู้เอกชน 1,953.43 -50 % พันธบัตรต่างประเทศ 20.30 n/a หมายเหตุ: n/a คือ หาค่าไม่ได้ เนื่องจากไม่มีมูลค่าการซื้อขายในวันก่อนหน้า