ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยภาคบ่ายยังร่วงลงต่อเนื่องจากภาคเช้า โดยไหลลงไปถึง 2% เนื่องจากปัจจัยภายในประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการเมือง ยังเป็นปัจจัยลบต่อบรรยากาศการลงทุน และยังมีแรงเทขายหุ้นในกลุ่มบิ๊กแคป โดยเฉพาะเครือ PTT ซึ่งเป็นตัวหลักในกลุ่มพลังงาน รวมทั้งกลุ่มแบงก์ กดดันภาพรวมดัชนี
ดัชนี SET ณ 14.43 น.ร่วงลงไป 16.57 จุด มาที่ 803.90 จุด หรือ -2.02%
นางสิริณัฏฐา เตชะศิริวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยบ่ายนี้ปรับลงแรงเพราะมีแรงขายออกมามาก รวมทั้งตลาดหุ้นในภูมิภาคก็ปรับลงเช่นกัน บางแห่งดัชนีปรับลดลงไปมากกว่า 1%
สำหรับปัจจัยภายนอกไม่ได้มีเรื่องใหม่ ๆ เข้ามา เพราะการรีบาวน์ของดัชนี SET และตลาดภูมิภาคในช่วงก่อนนหน้านี้ เป็นเรื่องของเทคนิคัลรีบาวน์ เนื่องจากปัจจัยความกังวลหลักๆ ของตลาดโลกยังเป็นกรณีความเสี่ยงต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย และมีปัญหาซับไพร์มที่จะส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติบางกลุ่มยังต้องเทขายต่อเนื่องเพื่อนำเงินไปชดเชยความเสียหายจากตลาดซับไพร์ม
ส่วนปัจจัยภายในประเทศ ประเด็นทางด้านการเมืองยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามต่อไปในกรณีการรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.ว่าจะสามารถรับรองได้ครบทันกำหนดเปิดสภาผู้แทนราษฎรได้หรือไม่ ถ้าไม่ทันก็จะเกิดความเสี่ยงที่การเมืองจะยืดเยื้อออกไป รวมถึงเรื่องการให้ใบเหลืองใบแดงกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน ที่อาจส่งผลถึงการฟ้องยุบพรรคได้
"ทิศทางเนื่องจากช่วงบ่ายถูกขายออกมาแรงจากนักลงทุนต่างชาติที่ขายหุ้นใหญ่ เพราะต่างชาติขายก็ต้องขายหุ้นใหญ่ แนวรับถัดไปจะอยู่แถวประมาณ 790 จุดท ถ้าจะรีบาวน์ ก็คงรีบาวน์แค่สั้นๆ" นางสิริณัฏฐา กล่าว
ทั้งนี้ ดัชนี SET เมื่อเวลา 14.58 น.ดัชนีอยู่ที่ 804.91 จุด ลดลง 15.56 จุด (-1.90%)
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--