นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 3/61 บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดในช่องทางค้าปลีกอยู่ที่ระดับ 14.20% เพิ่มขึ้นจากปี 60 ซึ่งอยู่ที่ 12.70% คาดว่าไตรมาส 4/61 ส่วนแบ่งการตลาดน่าจะเพิ่มมากขึ้นอยู่ที่ 15-15.5% จากการเข้าสู่ช่วง High Season และจากกระแสการตอบรับที่ดีของสถานีบริการใน กทม. และปริมณฑล โดยในปีหน้าจะคัดเลือกการลงทุนในพื้นที่ที่มีศักยภาพในการต่อยอดธุรกิจนอนออยล์ให้มากขึ้น
บริษัทยังคงเป้าการเปิดสาขาของสถานีบริการน้ำมันและก๊าซแอลพีจีอยู่ที่ 1,900 สาขา และจำนวนสาขาของธุรกิจ non-oil อยู่ที่ 500 สาขา ซึ่งรวมร้านสะดวกซื้อ Max Mart, ร้านกาแฟพันธุ์ไทย, ร้านคอฟฟี่เวิลด์, ร้านข้าวแกงครัวบ้านจิตร, ร้านซ่อมบำรุงสำหรับรถบรรทุก Pro Truck และสำหรับรถยนต์ Autobacs หลังจากมีกระแสการตอบรับที่ดีของการเปิดสถานีบริการในกทม. และปริมณฑล
บริษัทมียอดขายในช่วงไตรมาส 3/61 เติบโต 14% จากช่วงเดียวกันของก่อน ประกอบกับยอดขายในกรุงเทพฯ โตมากถึง 31% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการให้บริการที่ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งนี้บริษัทจะยังขยายสาขาด้วยการเช่าพื้นที่ของสถานีบริการเดิม และเพิ่มการให้บริการด้วยธุรกิจ non-oil ครบวงจร เพื่อช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงาน และการลงทุนใน non-oil ครั้งนี้จะเป็นการช่วยเสริมประสิทธิภาพของสถานีบริการน้ำมันในอนาคต
ขณะเดียวกันบริษัทยังเพิ่มสิทธิประโยชน์ในบัตร PT Max Card เพื่อเพิ่มเติมความหลากหลาย และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกรูปแบบ และบริษัทยังมีการเพิ่มเทคโนโลยีเข้ามาให้บริการ เช่น การชำระเงินด้วย QR Code ในธุรกิจนอนออยล์ เพื่อช่วยสนับสนุนการให้บริการที่ความสะดวก รวดเร็ว และตอบสนองความต้องการของลูกค้า ทำให้บริษัทจึงมีการมองหาพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยส่งเสริมการเติบโตแบบยั่งยืนในอนาคต