นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บมจ.เอกชัยการแพทย์ (EKH) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 62 เติบโต 8-10% จากปี 61 โดยมีปัจจัยหนุนมาจากการเปิดให้บริการศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) พระราม 9 สามารถให้บริการได้เต็มปี ทำให้สามารถรองรับคนไข้เข้ามาใช้บริการได้เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันศูนย์ IVF ของโรงพยาบาลเอกชัยมีอยู่ทั้งหมด 2 แห่ง และจากการเปิดให้บริการของศูนย์ IVF ที่พระราม 9 ส่งผลให้บริษัทปรับเป้าหมายของจำนวนคนไข้เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 300 ราย/ปี จากเดิมที่ 200 ราย/ปี สูงขึ้นจากปีนี้ที่ 100 ราย/ปี
นอกจากนี้โรงพยาบาลเอกชัยยังเตรียมเปิดอาคารกุมารเวชแห่งใหม่ในช่วงต้นปี 62 ซึ่งจะมีจำนวนห้องและเตียงเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 53 เตียง จากเดิมที่มี 86 เตียง ซึ่งสามารถรองรับการให้บริการแก่คนไข้ได้เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งจะมีการขยายศูนย์ไตเทียมในปีหน้าเพิ่มเติมอีก ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกแบบ และจะเริ่มขยายพื้นที่และเพิ่มอุปกรณ์ในช่วงต้นปี 62 เงินลงทุน 20 ล้านบาท ทำให้โรงพยาบาลเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการแก่คนไข้ได้มากขึ้นอีก และหนุนต่อผลการดำเนินงานในปี 62 ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทคาดว่าจะยังอยู่ที่ระดับ 35-40%
อีกทั้งบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพ ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่มีผู้ประกอบการรายอื่นทำไม่มาก โดยอยุ่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรที่มีความรู้และเชี่ยวชาญในธุรกิจดังกล่าว เพื่อต่อยอดการบริการในรูปแบบใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาและดูแลสุขภาพ ซึ่งบริษัทมีความต้องการที่จะลงทุนเอง โดยที่มีเงินรองรับเพียงพอในการลงทุน เพราะยังมีเงินที่เหลือจากการระดมทุนจาก IPO เหลืออยู่ที่ 300-400 ล้านบาท จากเงินที่ระดมทุนได้มา 500 ล้านบาท คาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงไตรมาส 1/62
ด้านผลกระทบของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงต่อเนื่องในช่วงนี้ บริษัทมั่นใจว่าไม่กระทบต่อจำนวนคนไข้จีนที่เข้ามาใช้บริการในศูนย์ IVF อย่างแน่นอน เพราะคนไข้ชาวจีนที่เข้ามาใช้บริการในศูนย์ IVF มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนในการเข้ามาใช้บริการเพื่อปรึกษาด้านการมีบุตร ไม่ใช่เข้ามาเพื่อการท่องเที่ยว โดยที่ผ่านมายังไม่พบว่าปัจจัยของนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงส่งผลกระทบต่อคนไข้ชาวจีนที่เข้ามาใช้บริการขศูนย์ IVF ของโรงพยาบาล และการเปิดศูนย์ IVF พระราม 9 เป็นการช่วยอำนวยความสะดวกกับคนไข้ที่ไม่สะดวกเดินทางออกไปใช้บริการนอกกรุงเทพฯ และเป็นย่านที่คนไข้ชาวจีนรู้จักและสะดวกเข้ามาใช้บริการ
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 61 คาดว่ารายได้จะเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้โต 15% หลังจากที่บริษัทยกระดับโรงพยาบาลเอกชัยเป็นการให้บริการโรคเฉพาะทางมากขึ้น รวมไปถึงการเจาะตลาดใหม่จากการเปิดศูนย์ IVF เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการแพทย์ที่ครบวงจร ทำให้จำนวนผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในเข้ามาใช้บริการเพิ่มต่อเนื่อง
และในไตรมาส 4/61 คาดว่าผลการดำเนินงานจะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะมีการเปิดศูนย์ IVF ที่พระราม 9 ในช่วงปลายเดือน พ.ย.นี้เข้ามาหนุนให้สามารถรองรับคนไข้ได้เพิ่มขึ้น แต่คงจะไม่เติบโตมากเท่ากับไตรมาส 3/61 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจโรงพยาบาล และในช่วงต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา มีวันหยุดของประเทศจีน ทำให้คนไข้ชาวจีนชะลอการเข้ามาใช้บริการในศูนย์ IVF ลงไปบ้าง แต่ไม่กระทบต่อภาพรวมของผลการดำเนินงานของบริษัทมานัก
"แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/61 ของบริษัทมั่นใจว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากยกระดับให้บริการรักษาโรคเฉพาะทางมากขึ้น รวมถึงได้พัฒนาทั้งในด้านของบุคลากร เครื่องมือ อุปกรณ์ทางการแพทย์และศูนย์ให้บริการต่างๆ ให้มีศักยภาพ จึงทำให้มั่นใจว่า ผลการดำเนินงานทั้งปีจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% ซึ่งถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่เปิดโรงพยาบาลมา"
ผลประกอบการในไตรมาส 3/61 สามารถเติบโตทั้งรายได้และกำไร โดยมีกำไรสุทธิ 45.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.84 ล้านบาท หรือ 23.68% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 36.65 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมเท่ากับ 192.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.88 ล้านบาท หรือ 19.90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 160.20 ล้านบาท เนื่องจากมีรายได้จากกิจการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น จากจำนวนครั้งของผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในที่เข้ารับบริการ การตรวจสุขภาพนอกสถานที่
ประกอบกับเป็นช่วง High Season ของธุรกิจโรงพยาบาล และรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดศูนย์ผู้มีบุตรยาก หรือศูนย์เด็กหลอดแก้ว (IVF) ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี จึงทำให้รายได้และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ