ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์พุ่ง 117.78 จุดหลังปธ.เฟดส่งสัญญาณลดดบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 11, 2008 06:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 ม.ค.) เนื่องจากเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้นหลังจากมีข่าวว่า แบงค์ ออฟ อเมริกา ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ ใกล้จะบรรลุข้อตกลงเทคโอเวอร์กิจการบริษัทคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทปล่อยกู้จำนองรายใหญ่ของสหรัฐ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดพร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเพื่อสกัดกั้นเศรษฐกิจไม่ให้เข้าสู่ภาวะถดถอย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 117.78 จุด หรือ 0.92% ปิดที่ 12,853.09 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 11.20 จุด หรือ 0.79% ปิดที่ 1,420.33 จุด และดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 13.97 จุด หรือ 0.56% ปิดที่ 2,488.52 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 2.06 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1
นายไรอัน ลาร์สัน นักวิเคราะห์จากบริษัทโวแย็ก แอสเซท เมนเนจเมนท์กล่าวว่า "ดาวโจนส์ทะยานขึ้นเกือบ 120 จุดหลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า การเจรจาของแบงค์ ออฟ อเมริกา ที่จะเข้าเทคโอเวอร์กิจการคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียลนั้น มีความคืบหน้ามาก นักลงทุนขานรับข่าวดังกล่าวทันที เพราะในช่วงที่ผ่านมานั้นตลาดได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อและตลาดปล่อยกู้จำนอง และปัญหาในบริษัทคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล ก็ฉุดตลาดร่วงลงเมื่อหลายวันก่อน"
"ข่าวเทคโอเวอร์กิจการคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล ช่วยคลายความกังวลจากข่าวลือที่ว่าคันทรีไวด์กำลังจะล้มละลาย เราคาดว่านักลงทุนจะจับตาดูความเคลื่อนไหวบริษัทปล่อยกู้จำนองอย่างใกล้ชิดในระยะนี้" นายลาร์สันกล่าว
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นหลังจากเบอร์นันเก้ส่งสัญญาณว่า เฟดพร้อมที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยเขากล่าวว่า "เฟดพร้อมที่จะใช้มาตรการมากขึ้นอีกหากจำเป็น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวขึ้น และเมื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะไม่เผชิญความเสี่ยงช่วงขาลง"
แต่จากนั้นไม่นาน ตลาดเริ่มเคลื่อนตัวผันผวน เมื่อนายโธมัส โฮนิก ผู้ว่าการเฟดสาขาแคนซัส ซิตี้ กล่าวว่า เฟดยังคงกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และตลาดหุ้นก็ไม่ใช่จุดศูนย์กลางแห่งความสนใจของเฟด ซึ่งการแสดงความคิดเห็นเช่นนี้ทำให้นักลงทุนมองว่าเฟดอาจไม่ค่อยให้ความสนใจเรื่องความวิตกกังวลของนักลงทุน แม้เฟดจะติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจอยู่อย่างใกล้ชิดก็ตาม
นายแอนโธนี คอนรอย นักวิเคราะห์จากบริษัทบีเอ็นวาย คอนเวิร์จเอ็กซ์ กรุ๊ป กล่าวว่า "การแสดงความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดจะเป็นปัจจัยบ่งชี้ทิศทางตลาดในระยะสั้น แต่ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ นักลงทุนจะเริ่มจับตาดูรายงานผลประกอบการของบริษัทเอกชน"
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มการเงินซึ่งถูกแรงขายทุบร่วงลงอย่างหนักเมื่อหลายวันก่อน ได้ดีดตัวขึ้นแข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองในด้านบวกต่อข่าวที่ว่าแบงค์ ออฟ อเมริกา เตรียมเข้าเทคโฮเวอร์กิจการคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล โดยหุ้นคันทรีไวด์พุ่งขึ้น 51.3% และหุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา ดีดขึ้น 56 เซนต์ ปิดที่ 39.30 ดอลลาร์
ส่วนหุ้นแคปิตอล วัน ไฟแนนเชียล ร่วงลง 43 เซนต์ ปิดที่ 42.92 ดอลลาร์ หลังจากบริษัทต้องตั้งสำรองหนี้สูญเป็นวงเงินถึง 1.9 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 4 ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าปัญหาในตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกค้าที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ (ซับไพรม์) กำลังลุกลามไปทั่วอุตสาหกรรมสินเชื่อ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ